- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จริงใจหรือไก่กา
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
พลันที่ท่านผู้นำลุกขึ้นมาทำท่าขึงขังจริงจังกับการปราบโกงอีกครั้งด้วยการออกคำสั่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกองทัพบก ซึ่งรวมไปถึงกองทัพภาค และหน่วยทหารของกองทัพบกในพื้นที่ เป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตประพฤติมิชอบ เรียกรับสินบนหรือผลประโยชน์ทุกรูปแบบ ที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ด้วยการเปิดตู้ ปณ. และสายด่วนให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสต่างๆ โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารบกและเลขาธิการ คสช. เป็นผู้รับผิดชอบ
ท่านผู้นำยืนยันถึงความสำคัญจำเป็นที่ต้องปราบปรามคอร์รัปชันอย่างจริงจัง เพราะการทุจริตเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหาค้ามนุษย์ การขาดความศรัทธาในหน่วยงานของรัฐ ประเทศชาติสูญเสียงบประมาณแผ่นดินมหาศาล และกระทบต่อความเชื่อถือของต่างประเทศ
เป้าหมายคือสร้างประเทศไทยให้ใสสะอาดฟื้นคืนความเชื่อมั่นจากประชาชน โดยเบาะแสที่ได้รับจากประชาชนจะถูกรวบรวมส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
ฟังดูแล้วก็เข้าท่าดี เพราะการสร้างประเทศไทยให้ใสสะอาดขจัดคนโกงเป็นสาเหตุหนึ่งที่กองทัพใช้ในการยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศ แต่เวลากว่า 3 ปีที่ถือครองอำนาจรัฐยังต้องเปิดตู้ ปณ. เปิดสายด่วนรับเบาะแสจากประชาชนก็เป็นเครื่องชี้วัดอย่างดีว่ากว่า 3 ปีที่ผ่านมาการปราบโกงประสบความสำเร็จหรือไม่ ประเทศไทยขยับเข้าใกล้ความใสสะอาดหรือยัง
อย่างไรก็ตาม การลุกขึ้นมาทำท่าขึงขังอีกครั้งในช่วงปลายอำนาจก็ยังดีกว่าอยู่เงียบๆ รอวันพ้นเก้าอี้ ใครที่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการทุจริตโกงกิน อยากรู้ว่าครั้งนี้รัฐบาลจะเอาจริงเอาจังหรือไม่ก็สามารถแจ้งได้ที่ Hot line 1299 หรือส่งเอกสารหลักฐานไปที่ ตู้ ปณ.444 หรือ เดินเข้าไปแจ้งโดยตรงที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภายในหน่วยทหารที่ประจำอยู่ในพื้นที่ของกองทัพภาค
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยแสดงความฉับไวทดสอบความจริงใจในการปราบโกงด้วยการออกมาเปิดเผยข้อมูลความไม่โปร่งใส กรณีการประมูลขายข้าวให้คนบริโภค ไปเป็นอาหารสัตว์ จำนวน 18 โกดัง ซึ่งคาดว่าทำให้ขาดทุนกว่า 10,000 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญที่ต้องขีดเส้นใต้ตัวโตๆคือ มีข้อมูลว่ามีเอกชนมาขอซื้อในราคาที่สูงกว่า แต่ไม่ได้ กลับยืนยันจะขายในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อเอาไปทำอาหารสัตว์
ตัวแทนพรรคเพื่อไทยแสดงหลักฐานประกอบให้เห็นชัดเจนถึงความไม่ชอบมาพากลในการระบายข้าวสต็อกรัฐ โดยระบุช่วงเวลาและรายชื่อบริษัทที่ได้ข้าวไปอย่างชัดเจน ระบุว่าที่ผ่านมามีการประมูลขายข้าวให้คนบริโภคไปเป็นอาหารสัตว์ 18 โกดัง รวม 200 ตัน ทำให้รัฐบาลขาดทุนไป 1,000 ล้านบาท หากขายข้าวจากที่คนบริโภค ไปเป็นอาหารสัตว์ จำนวน 2.14 ล้านตัน คาดว่ารัฐบาลจะต้องขาดทุนประมาณ 10,700 ล้านบาท
มีคำถามว่าท่านผู้นำในฐานะประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รับทราบเรื่องเหล่านี้หรือไม่ เพราะผู้ดำเนินการยืนยันว่าผ่านความเห็นชอบจากประธานนบข.แล้ว
ต้องรอดูท่าทีของท่านผู้นำที่ลุกขึ้นมาทำท่าขึงขังจริงจังกับการปราบโกงอีกครั้งจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเรื่องนี้
ที่สำคัญคือต้องรอดูผลการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่พรรคเพื่อไทยจะไปยื่นเรื่องให้ดำเนินการว่าผลการตรวจสอบจะออกมาอย่างไร
ไหนๆจะปราบโกง จะทำประเทศไทยให้ใสสะอาดลองเริ่มจากเรื่องขายข้าวคนบริโภคไปเป็นอาหารสัตว์ที่ทำให้รัฐเสียส่วนต่างรายได้ที่ควรจะได้รับ ซึ่งตามข้อมูลหลักฐานที่นำมาเปิดเผยค่อนข้างชัดเจนพอสมควร
ใครผิดว่าตามผิด นอกจากจะเอาโทษทางอาญาแล้ว ต้องให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย หรือถ้าสอบแล้วไม่เห็นว่าการเอาข้าวที่คนยังบริโภคไปขายเป็นอาหารสัตว์ราคาถูกไม่เป็นความผิดโดยมีเหตุผลความจำเป็นอย่างไรก็ชี้แจงกันออกมา ประชาชนรอฟังคำตอบ
You must be logged in to post a comment Login