วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไม่เสียของ

On July 17, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำให้หลายคนตื่นเต้นว่านี่คือการปฏิวัติครั้งใหญ่ที่จะส่งผลสะเทือนทางการเมืองเป็นอย่างมาก

สาระสำคัญของกฎหมายนี้คือสามารถส่งฟ้องคดีต่อศาลโดยไม่ต้องนำตัวจำเลยไปแสดงได้ หลังศาลรับฟ้องภายใน 3 เดือน หากไม่สามารถนำตัวจำเลยมาขึ้นศาลได้ ศาลสามารถพิจารณาพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ เมื่อศาลรับฟ้อง คดีจะไม่มีการนับอายุความ เช่นเดียวกับกรณีหากศาลตัดสินจำคุกแต่ผู้ต้องหาหลบหนีก็จะไม่นับอายุความ

ประเภทหนีไปให้หมดอายุความแล้วกลับมาเสวยสุขจะไม่มีอีกแล้ว

ที่มองกันว่ากฎหมายนี้จะส่งผลสะเทือนทางการเมืองอย่างใหญ่หลวง เพราะหลายฝ่ายจับจ้องไปที่คดีความของดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคดีความค้างการพิจารณาอยู่ในศาลหลายคดี

หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างยืนยันตรงกันว่าเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้คดีความที่ดร.ทักษิณตกเป็นจำเลยและหยุดชะงักมานานจะเริ่มเดินหน้าต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องไปตามล่าตัวดร.ทักษิณมาขึ้นศาล

สาเหตุที่ทำให้กฎหมายที่เพิ่งออกมาบังคับใช้สามารถใช้ย้อนหลังไปถึงคดีความของดร.ทักษิณได้เพราะกรณีนี้เป็นเรื่องของวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับขั้นตอนการพิจารณาคดีไม่เกี่ยวกับบทลงโทษจึงสามารถบังคับใช้ย้อนหลังได้

เมื่อเป็นอย่างนี้ทำให้คดีความของดร.ทักษิณ ที่ค้างการพิจารณาอยู่ในชั้นศาล 5 คดีจะสามารถเริ่มเดินหน้าต่อไปได้ประกอบด้วย

1.คดีทำความผิดกรณีใช้อำนาจหน้าที่ทางการเมืองขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปผ่านการแปลงสัญญาสัมปทานธุรกิจโทรคมนาคม

2.คดีปล่อยเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ เอ็กซิมแบงก์

3.คดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ (ซุกหุ้น)

4.คดีหวยบนดิน

5.คดีการปล่อยกู้เงินมิชอบให้บมจ.กฤษดามหานครของธนาคารกรุงไทย

คดีความทั้งหมดนี้ บางคดีศาลตัดสินไปแล้ว เช่น คดีหวยบนดินที่ให้จำคุกจำเลยร่วมคนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา (จำหน่ายคดีในส่วนของดร.ทักษิณเนื่องจากไม่มาศาล) คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้มิชอบให้บมจ.กฤษดามหานครศาลสั่งจำคุกจำเลยร่วมคนละ 18 ปี (จำหน่ายคดีในส่วนของดร.ทักษิณเนื่องจากไม่มาศาล)

อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้จะบังคับใช้เฉพาะกับนักการเมืองเท่านั้น ส่วนข้าราชการ นักธุรกิจเอกชนที่กระทำทุจริตจะใช้วิธีพิจารณาคดีความกันตามปรกติ โดยอ้างว่านักการเมืองโกงทำให้ชาติเสียหายมากกว่าจึงต้องเด็ดขาดกว่าและตัดสินคดีให้เร็ว

เมื่อกฎหมายเลือกบังคับใช้เฉพาะกับการเมือง ทำให้มีหลายคนมองว่าจเป็นการไล่เช็กบิลอดีตนายกฯทักษิณหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำไม่ให้ประชาชนหลงลืมว่ามีคดีความอะไรติดตัวอยู่บ้าง แม้จะเอาตัวมาติดคุกไม่ได้ แต่หากคดีเดินต่อไปถึงที่สุดแล้วมีคำพิพากษาให้จำคุกเป็นชนักติดหลังเอาไว้ก็สบายใจได้ว่าไม่มีโอกาสกลับประเทศมาสร้างความหนักอกหนักใจให้ขั้วการเมืองตรงกันข้าม แถมผลการพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับทุจริตจะจำกัดไม่ให้เคลื่อนไหวได้อิสระอย่างที่เป็นอยู่ด้วยต้องโลว์โปรไฟล์อยู่อย่างเงียบๆ

ไล่บี้กันขนาดนี้ ถ้าไม่มีนิรโทษกรรม อดีตนายกฯไม่มีวันได้กลับเมืองไทย การรัฐประหารครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าไม่เสียของ เพราะถ้าไม่ออกกฎหมายในช่วงนี้ คดีของดร.ทักษิณก็มีแต่นับถอยหลังรอวันหมดอายุความ ซึ่งจะสามารถเดินทางกลับประเทศได้


You must be logged in to post a comment Login