วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ประชาชนคือเจ้าของประเทศ / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On July 17, 2017

คอลัมน์ : ฟังจากปาก

ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

สถานการณ์ขณะนี้เป็นเวลาที่ผู้มีอำนาจกำลังตัดสินใจ ถ้าคำนึงถึงประชาชนและบ้านเมืองก็น่าจะรู้ว่าควรทำอย่างไร เพราะการทำให้ประชาธิปไตยไม่เป็นของประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนมีความทุกข์ ผู้มีอำนาจขณะนี้ถึงเวลาที่ท่านควรตัดสินใจได้แล้วให้การเลือกตั้งเป็นอนาคตของประชาชนจริงๆ อย่าวิตกว่าถ้าท่านไม่ได้บริหารแล้วคนอื่นจะทำให้ประชาชนทุกข์ยาก เพราะขณะนี้ประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจเขาเดือดร้อนระส่ำระสายไปหมด

ผมไม่เชื่อว่าวิธีการที่จะไปคิดอะไรแทนประชาชน ตัดสินใจแทนประชาชนทั้งหมด เป็นทิศทางที่ถูกต้อง ประชาชนวันนี้เขาไม่โง่ เพียงแต่เขาไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้า อย่าคิดว่าถ้าประชาชนไม่พูดแสดงว่าเขายอมจำนน ผมเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหมดคงกำหนดเวลาที่เหมาะสมแล้วว่าจะให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจเมื่อไร ขนาดโรดแม็พผู้มีอำนาจก็ตั้งเอง กำหนดเองทั้งหมด ถึงเวลาเลือกตั้งท่านจะได้รู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร

ปี 2561 จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ผมมองตามทฤษฎีประชาธิปไตยของโลก ถ้า คสช. จะฝืนก็ไม่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุข จะเดือดร้อนกันไปหมด วันนี้พวกค้าขาย ชาวบ้าน ชาวเมือง ถ้าเป็นชนบทยิ่งเดือดร้อน ผมคิดว่าตรงนี้ทำให้ผู้มีอำนาจต้องตัดสินใจว่าสิ่งที่ทำมันเกิดความสุขหรือความทุกข์ ไม่ใช่เอามาเสี่ยงเอามาทดลอง ผมยังเชื่อว่าเขาคอยวันที่จะเป็นของประชาชนอยู่

เลือกตั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุด

มันเป็นสิ่งบอกเหตุ โชคดีว่าไม่มีใครคัดค้าน แต่สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้เป็นความลับ เพราะฉะนั้นถ้าเรายังเป็นคนใจบุญ เป็นเมืองพุทธ ก็ต้องเข้าใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ผมเชื่อว่าเรายังโชคดีหรือมีบุญที่คนไทยเป็นคนที่น่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนจนจะทุกข์จะจนอย่างไรก็อดทน ผมเห็นว่านี่เป็นสิ่งที่ดีงาม และหวังว่าบ้านเมืองจะพลิกฟื้นคืนมา ผมไม่เชื่อว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ แล้วให้โพลสำรวจว่าประชาชนเกลียดนักการเมืองหมดหรือยัง ถ้ายังไม่เกลียดนักการเมืองก็ยังไม่ให้มีเลือกตั้ง ผมคิดว่าคงไม่ใช่ ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน

ถ้าปี 2561 ไม่มีการเลือกตั้งคงลำบาก เพราะครั้งแรกประกาศว่าปีที่ 1 จะเลือกตั้ง พอปีที่ 2 ที่ 3 ก็ประกาศเลื่อนอีก หากตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 4 แล้วยังจะขยับเป็นปีที่ 5 ปีที่ 6 ก็มีเหตุผลอย่างเดียวคือยังไม่สามารถให้ใครมาสืบทอดอำนาจได้ ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ผมคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะคืนอำนาจให้ประชาชน ท่านได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำมาเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ถ้าการเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีกประชาชนจะออกมาทวงสัญญาหรือไม่นั้น ผมคิดว่ามันอยู่ในใจเขา แต่ไม่ใช่ออกมาเผชิญหน้าแล้วสู้กันแบบเก่าๆ ท่านสุ่มดูก็จะรู้ว่าประชาชนคิดยังไง ช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีคนรัก คนพอใจแค่ไหน อำนาจสร้างความสุขให้ใครบ้าง

ความเห็นของ “พล.อ.ชวลิต”

ต้องเคารพ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่าท่านเป็นตัวอย่างฝ่ายความมั่นคง สะท้อนในเชิงประชาธิปไตยที่ไม่เคยเป็นอย่างอื่น ท่านบอกว่าหลักการปกครองของโลกหนีไม่พ้นระบอบประชาธิปไตย อธิปไตยต้องเป็นของปวงชน คสช. ยังไงก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน ท่านอยากให้บ้านเมืองมีความสุข อยากให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน ท่านยืนยันแบบนี้มาตลอด ต้องถือว่าท่านเป็นเสาหลักที่ผู้ที่เกี่ยวข้องควรนำไปเป็นแนวคิดแนวปฏิบัติ ใครคิดยังไง ทำอะไร ก็อยู่ในใจของประชาชนทั้งหมด

อนาคตการเมือง “บิ๊กตู่”

ผมยังไม่เห็นว่าท่านจะตัดสินใจตั้งพรรคหรือไม่ แต่ที่เห็นกันอยู่ก็พอเห็นลู่ทางว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสนามเลือกตั้ง ผู้ที่จะออกมาเป็นผู้นำของพรรคที่เรารู้ว่าเป็นพรรคทหารเขาตั้งใจจะสืบทอดแนวความคิดที่ทำมา 3 ปี ส่วนเสียงวิจารณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ผมว่าอย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายไปก่อน ผมคิดว่าถึงเวลาท่านคงจะเลือกทางที่ประชาชนมีความสุขได้

นายกฯคนนอกผมคิดว่าองค์ประกอบมันเอื้อ ถ้าอยากทำก็ทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นนิรันดร์ ถ้ามันไม่ดีก็จะเกิดการแก้ไข ท้ายสุดก็จะกลับไปสู่สภาพที่เป็นจริงไม่ช้าก็เร็ว ผมขอย้ำว่าที่ฝ่ายการเมืองออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเขาต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่เป็นทางสายกลางที่ดีที่สุด และอำนวยความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน

มองการเมืองในอนาคตอย่างไร

รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เขียนไว้ว่า มี ส.ว.จากการแต่งตั้ง 250 คน ส.ส.เลือกตั้ง 350 คน ส.ส.แบบเฉลี่ยอีก 150 คน เพราะฉะนั้นทิศทางทั้งหมดพอมองเห็นแล้วว่าบทเฉพาะกาลเขียนให้ฝ่ายผู้มีอำนาจยังมีสิทธิได้เป็นผู้บริหารอยู่ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าประชาชนชอบประชาธิปไตย คือพรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้ง ผมมั่นใจว่าพรรคการเมืองวันนี้ต่างก็เจ็บปวด จึงควรทุ่มเทอย่างจริงใจที่จะให้ได้อำนาจกลับมาเป็นของประชาชน แม้อาจไม่ได้มากถึงขั้นตั้งนายกรัฐมนตรีได้ก็ตาม แต่ก็จะมีสภาที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งพรรคการเมืองทุกพรรคจะได้ทำหน้าที่นิติบัญญัติเพื่อให้ความสุขแก่ประชาชน

ส่วนจะมีนายกฯคนนอกหรือไม่ รัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาลก็เขียนไว้ชัดเจน ผมไม่ต้องการรัฐธรรมนูญแบบนี้ แต่เมื่อประชาชนลงมติรับก็ต้องเคารพ แม้จะมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ตาม แต่ก็จะมีการถ่วงดุล การตรวจสอบ ผมเชื่อว่าพลังของสภาที่มาจากการเลือกตั้งจะยังเป็นพลังที่มีความสำคัญ ส่วนพรรคเพื่อไทยในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับประชาชน สมาชิกพรรคต่างอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน รับทราบความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ใครมาเป็นรัฐบาลเราก็ทำหน้าที่ให้กับประชาชน ประชาชนเขารู้ร้อนรู้หนาว เจ็บแล้วจำ ใครสร้างความเจ็บปวดให้ ถึงเวลาเขาก็จะสะท้อนให้เห็น

ผมมั่นใจว่าพรรคการเมือง นักการเมืองที่ยืนหยัดกันอยู่ ต่างก็อยู่ในหัวใจของประชาชน ข้อสำคัญเวลาใครเป็นรัฐบาล ใครมีอำนาจ ใครเป็นฝ่ายค้าน ก็ขอให้สำนึกว่าประชาชนเขาให้เรามาทำ อย่าคิดเป็นอย่างอื่น ประชาชนไม่ผิดหวังเราก็มีความสุข ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่มันจะโรยด้วยกลีบกุหลาบหรือไม่ต้องคอยประคับประคองกันไป ต้องเห็นใจประชาชนที่ทุกข์ยาก

 

สุดารัตน์” จะเป็นผู้นำเพื่อไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะที่ผมได้สัมผัส ได้ทำงานใกล้ชิดกับท่าน ผมคิดว่าท่านเป็นคนที่อยู่กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ต้นจนถึงพรรคเพื่อไทยวันนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรที่เป็นข้อด้อย คุณหญิงสุดารัตน์ถือเป็นคนที่พร้อมจะทำงาน ท่านเป็นนักการเมืองที่เข้าใจความคิดของประชาชน ของชาวบ้าน เป็นนักการเมืองที่อยู่กับประชาชนมานาน มีคุณสมบัติที่จะทำงานทางการเมืองท่ามกลางภาวะเช่นนี้ คุณหญิงสุดารัตน์จึงมีความเหมาะสมที่จะนำพรรคเพื่อไทยสู้ศึกการเลือกตั้งในอนาคต ตอนนี้ยังไม่เห็นว่าท่านมีอะไรที่บกพร่อง

ถ้าต้องเป็นฝ่ายค้าน

ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ตอนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่มีบทเฉพาะกาลให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับการเลือกตั้งก็ต้องดูว่าประชาชนอยากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่อย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญอาจให้รับไปเพื่อจะได้มีการเลือกตั้ง วันนี้ประชาชนคงพอเห็นแล้วว่าเป็นยังไง พรรคเพื่อไทยคงต้องยืนยันเรื่องนี้กับประชาชน ให้ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินต่อไป ความเป็น ส.ส. มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องมี ส.ส. คอยตรวจสอบ เยี่ยมเยียนประชาชน เป็นหูเป็นตาแทน นั่นคือการทำในสิ่งที่ดีงามในระบอบประชาธิปไตย

การสืบทอดอำนาจ

ผมคิดว่าที่อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล พูดก็ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเพื่อสะท้อนให้เห็นทิศทางทางการเมือง ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด อาจารย์เสกสรรค์ยังบอกว่าอยากเห็นนักการเมืองร่วมมือกันสร้างประชาธิปไตย หรือทำประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นตามที่ประชาชนคาดหวังหลังการเลือกตั้ง ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องทำหน้าที่นี้ด้วยความอดทน ส่วนใครจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ อย่างไร ก็เป็นสิทธิที่เขาจะทำ แต่ถามว่าประชาชนชอบหรือไม่ ประชาชนอยากให้สืบทอดอำนาจไป 10-20 ปีหรือไม่ ถ้ามีการสืบทอดอำนาจไป 10-20 ปี ประชาธิปไตยไทยจะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าประชาชนจะมาทวงถามสิ่งที่เป็นของเขาเอง ไม่ใช่ให้ใครมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ 20 ปีอะไรอย่างนี้ ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศจะทนได้หรือไม่


You must be logged in to post a comment Login