วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การต่อสู้ที่ชอบธรรม / โดย Pegasus

On July 31, 2017

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน

ผู้เขียน : Pegasus

ภายหลังที่คดีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ถูกยกฟ้องกรณียึดสถานที่ราชการ ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม ขณะที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถูกดำเนินคดี แต่รัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถูกดำเนินคดีตั้งแต่แรก และกำลังจะมีการพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวในไม่ช้า ซึ่งทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน และยังอาศัยสถานการณ์สำคัญนี้ปิดปากไม่ให้ประชาชนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมๆกับฉวยโอกาสจัดการศัตรูทางการเมืองตามแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

เหมือนเป็นความฉลาดของฝ่ายสนับสนุนเผด็จการที่ทำอะไรก็ดูเหมาะเจาะไปหมด ราวกับว่ามีการวางแผนต่างๆมายาวนานเป็นปีหรือก่อนการรัฐประหารเสียอีก แต่สิ่งที่เป็นประเด็นคือ การต่อสู้ของประชาชนเพื่อความยุติธรรมและเป็นธรรม ต้องสู้ทุกเวที ทุกเรื่อง ทุกประเด็น ไม่ว่าจะแพ้กี่ครั้ง น้ำตาจะไหลสักเพียงใด ก็ต้องนำมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรม โค่นล้มผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังความพินาศล่มจมของชาติบ้านเมือง

ประการสำคัญที่สุดที่ทำได้ขณะนี้คือ ต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่าคดีต่างๆทางการเมือง หรือคดีประชาชนและนักศึกษาที่ถูกกล่าวหาและจับกุม ไม่ใช่แค่คดีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น

คดีโครงการรับจำนำข้าวเราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะมีชะตากรรมอย่างไร จะถูกจำคุกหรือไม่ จะถูกยึดทรัพย์หรือไม่ หรืออาจเกิดอะไรก็ได้หากถูกตัดสินว่าผิดและถูกจำคุก เพราะสภาพความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมล้วนแตกต่างสิ้นเชิงกับชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้

หากทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ยุติธรรม เป็นธรรม และโปร่งใสอย่างแท้จริง หากมีความผิดจริงและต้องถูกจำคุกก็เป็นเรื่องปรกติที่ต้องยอมรับ แต่คดีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์มีหลักฐานมากมายที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าจริงหรือเท็จ แม้แต่การใช้อำนาจของรัฐบาลทหารและเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายต่างๆ รวมถึงมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ระบุชัดเจนว่าไม่พบหลักฐานการทุจริต แต่ผิดตามมาตรา 157 ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอนจนทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย

ทำให้มีการตั้งคำถามว่าเป็นความจริงที่จงใจหรือกลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาหรือไม่ โดยเฉพาะคำให้การของพยานจำเลยล่าสุดในหลายเรื่องหลายประเด็นที่กล่าวถึงปัญหาของข้าราชการและระบบราชการ ซึ่งหลักฐานนี้ศาลจะรับฟังหรือไม่ก็ตาม แต่ประชาชนจำนวนมากหรือวิญญูชนทั่วไปก็ต้องตั้งคำถามว่าจริงหรือเท็จ

อย่างไรก็ตาม มีคำกล่าวของนักประชาธิปไตยตะวันตกเกี่ยวกับการใช้กฎหมายภายใต้ระบอบเผด็จการว่า เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค

การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเป็นธรรมไม่ใช่แค่คดีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ที่ศรัทธาและสนับสนุนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ แต่เป็นการรวมพลังของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรม หรือได้ประชาธิปไตยที่เป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริงกลับคืนมา

ต้นเดือนสิงหาคมยังมีคดีสลายการชุมนุม หรือการควบคุมฝูงชนในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่จะมีการตัดสิน ซึ่งคดีของฝ่ายที่ยึดสถานที่ราชการก็มีคำถามที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีคดีทางการเมืองอีกหลายคดีที่มีการกล่าวหาและจับกุมผู้เห็นต่างที่ต้องให้กำลังใจต่อผู้ที่ถูกดำเนินคดี

โดยเฉพาะคำถามว่าไม่ผิดแต่ถูกกล่าวหาและจับกุมคุมขังจะทำอย่างไร คือไม่ผิดกฎหมายปรกติ แต่ผิดเพราะขัดคำสั่งผู้มีอำนาจในสถานการณ์ไม่ปรกติ

การต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ต้องไม่ใช่การชุมนุมเกิน 5 คนในแต่ละกลุ่ม เพราะผิดกฎหมายของคณะรัฐประหาร

การต่อสู้มีหลายรูปแบบและหลายวิธี ต้องไม่ท้อถอย เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้


You must be logged in to post a comment Login