ขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านปีที่ 17 ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

• Tweet
• 

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาเรื้อรังต่อการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน  เพราะที่ผ่านมาการพัฒนาประเทศมุ่งเน้นแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดช่องว่างความยากจนมากขึ้น เกิดความอ่อนแอและความเหลื่อมล้ำในสังคม เป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย รัฐบาลเองได้มองเห็นขีดความสามารถและทักษะการทำงานของประชาชน  จึงได้ดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการลงทุนในการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน

นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้เกิดการออมของประชาชนเพื่อความมั่นคงในรากฐานของชีวิตและครัวเรือน  จัดระบบสวัสดิการของหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม โดยประชาชนเพื่อประชาชนตลอดจนสร้างสวัสดิการที่จะกลับคืนสู่สมาชิก หมู่บ้าน และชุมชน ซึ่งในช่วง 16 ปีที่ผ่านมากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองส่วนใหญ่ดำเนินการได้ดี จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ส่งผลถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจในระดับประเทศ

ปัจจุบันเรามีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวนทั้งสิ้น 79,593 กองทุน สมาชิกประมาณ 13 ล้านคน และได้ยกระดับขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 2,560 แห่ง มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 3 แสนล้านบาท กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐากรากของประชาชนโดยตรง

นายสุวิทย์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนกองทุน โดยผ่านโครงการต่าง ๆ  เช่น โครงการสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 40,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 5  โครงการฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อสนับสนุนการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยได้สนับสนุนเพิ่มทุนไปแล้ว 68,318 กองทุน ในวงเงิน 68,318 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน สำหรับจำหน่ายสินค้าของสมาชิก โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนงบประมาณให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท และโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งฐานรากตามแนวประชารัฐ (15,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นโครงการขยายผล และต่อยอดโครงการที่ได้ดำเนินการมาในปี 2559 จะได้รับการโอนเงินให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในเดือนกรกฏาคม-สิงหาคมนี้

16 ปี ของการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้ก่อให้เกิดสิ่งดี ๆ มากมาย ที่เป็นรูปธรรม อาทิ ร้านค้าประชารัฐ 19,306 แห่ง ตลาดประชารัฐ 1,359 แห่ง สินค้ากองทุนหมู่บ้านกว่า 10,000 รายการ โรงน้ำดื่มชุมชนกว่า 10,000 แห่ง สามารถมีเงินสมทบเข้ากองทุนกว่า 5,600 ล้านบาท ส่งเสริมการออมกว่า 18,600 ล้านบาท ฯลฯ  และเมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 ในปีนี้ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากต่อไป ตามแนวคิด local economy โดยมุ่งพัฒนาทุกด้าน ภายใต้ศาสตร์พระราชาว่าด้วย หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้แก่ การทำความเข้าใจถึงความสำคัญในหน้าที่และความรับผิดชอบของตนให้ถ่องแท้ ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ด้วยความอุตสาหะ เสียสละด้วยความสุจริตจริงใจ

You must be logged in to post a comment Login