- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 5 hours ago
- ขอให้คนไทยมีสติPosted 1 day ago
- ธรรมะใช้ได้ทุกวงการPosted 2 days ago
- ช่วยขจัดเหตุความชั่วร้ายPosted 3 days ago
- ใครเป็นนายกฯตัวจริงPosted 6 days ago
- ชอบผู้นำสไตล์ไหนPosted 1 week ago
- เมื่อความเจ็บป่วยมาเยือนPosted 1 week ago
- ไต่บันไดทีละขั้นดีกว่าPosted 1 week ago
- เกิดเป็นคนต้องสู้Posted 1 week ago
- ความตายอย่ามาเยือนบ่อยPosted 2 weeks ago
กองทุนผู้สูงวัย / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
มีการประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับผู้สูงวัยในประเทศไทยหรืออีกหลายประเทศว่า อีก 3 ปี หรือปี 2563 คนไทยจะเข้าสู่สังคมวัยชราถึง 14 ล้านคน หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ปัญหาคือไม่มีงบประมาณจะดูแลผู้สูงอายุที่นับวันจะมากขึ้น หากยังไม่รู้ว่าจะหามาตรการงรองรับก็จะเกิดปัญหาต่างๆตามมา
จึงต้องวางแผนกันตั้งแต่วันนี้ อย่างที่วัดสวนแก้วคิดมานานแล้ว แต่เสียดายก็ยังถือว่าคิดช้าไป ถ้าตั้ง “กองทุนผู้สูงวัย” เมื่อ 15-20 ปี เชื่อเหลือเกินว่าป่านนี้คงจะมีเงินกองทุน 20-100 ล้านบาท วันนี้หลายฝ่ายก็กระตือรือร้นจะตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัย แม้จะไม่ใช่การสร้างโบสถ์วิหารเจดีย์ แต่ก็ถือว่าเป็นการทำบุญเช่นกัน ผู้สูงอายุจะได้ไม่ถูกทอดทิ้ง
หากเมืองไทยมีการตั้งกองทุนหลายแห่งหลายที่ สมมติจังหวัดละแห่ง ก็น่าจะช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้งได้ระดับหนึ่ง เรื่องเกิดแก่เจ็บตายถือเป็นภัยของชีวิต เป็นมรณภัยที่เราต้องร่วมกันป้องกันแก้ไข ซึ่งการตั้งกองทุนต่างมาช่วยเหลือผู้สูงวัยก็น่าปลื้มใจ การเอาใจใส่ดูแลผู้สูงอายุถือเป็นเรื่องที่ดี หากิจกรรมให้ทำ เช่น พาไปเรียนรู้ต่างๆ อย่างโรงเรียนผู้สูงวัย แม้แต่การแต่งตัวเป็นนักเรียนก็ทำให้ชีวิตสดชื่น ไม่ห่อเหี่ยวไปกับความอายุ ไม่ใช่อายุมากแล้วมานั่งห่อเหี่ยว ที่วัดสวนแก้วจึงตั้งกองทุนผู้สูงวัยช่วยผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้งไม่ให้เดียวดายเหงาเศร้า
โชคดีของประเทศไทยที่ผู้สูงวัยยังได้รับการเอาใจใส่จากรัฐบาล มีการขึ้นทะเบียนให้มีรายได้ แม้ไม่มากแต่ก็ช่วยให้คนชราไม่ว้าเหว่ ไม่อดอยากปากแห้งจนเกินไป ได้กินอิ่มนอนอุ่นก็ถือว่าเป็นบุญของผู้สูงวัยแล้ว ไม่หดหู่ในบั้นปลายชีวิต ไม่ถูกทอดทิ้ง คนแก่จะได้ไม่ร้องเพลงหงอยเหงา จนเป็นโรคซึมเศร้า มีกิจกรรมให้คึกคัก ออกกำลังกายบ้างและเรียนรู้อะไรที่สนุกสนาน หรือร้องรำทำเพลง
ก็ขอฝากคนที่สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างเจดีย์ อย่าลืมสร้างความสุข ความอบอุ่นให้ผู้สูงอายุได้กินอิ่มนอนอุ่น หากหาที่ไหนไม่ได้ก็ยังมีวัดวาอาราม ทำไมไม่ร่วมกันตั้งกองทุนผู้สูงวัยให้วัดละ 5 ล้าน 10 ล้าน ซึ่งได้ทั้งสนับสนุนผู้สูงวัยและสนับสนุนเป็นกองทุนสนับสนุนศาสนาอีก
อาตมาก็ขอให้คิดถึงเรื่องศาสนสงเคราะห์กันด้วย ไม่ใช่มัวแต่ไปซ่อมโบสถ์เก่าวิหารเก่า อุดหนุนทุนการศึกษาพระปริยธรรมหรือการเผยแพร่พระศาสนา แต่ปล่อยให้คนแก่ห่อเหี่ยวมันก็ไม่ไหว ทำบุญเพิ่มเรื่องผู้สูงอายุเถอะ อย่างน้อยตายแล้วก็ยังมีโลงใส่ วัดก็ซื้อให้ หรืออดอยากลำบาก วัดก็จะหาข้าวปลาอาหารช่วยประทังชีวิต เรื่องกองทุนผู้สูงอายุจึงควรทำกันได้แล้ว
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login