วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เสียของเสียเปล่า

On August 7, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ตรวจจับความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประเมินสถานการณ์ล่าสุดพบว่าโรดแม็พสู่การเลือกตั้งยังเดินหน้าต่อไปตามขั้นตอนไม่มีอะไรสะดุด

การออกกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับก่อนที่จะปลดล็อกการเมืองขณะนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่แปลงร่างมาทำหน้าที่ยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ยกร่างเสร็จแล้ว 5 ฉบับ ส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเห็นชอบอยู่ในขั้นตอนรอนำขึ้นทูลเกล้า 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

2 ฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช.คือ ร่างพ.ร.ป.ผู้ตรวจการ และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ส่วนอีก 5 ฉบับที่อยู่ระหว่างการยกร่างของ กรธ.ประกอบด้วยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.

ทุกอย่างยังเดินหน้าไม่มีอะไรสะดุด ยังไม่มีรายการคว่ำร่างพ.ร.ป.ของ สนช.เพื่อยืดเวลาเลือกตั้งออกไปอย่างที่หวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ ส่วนร่างพ.ร.ป.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจะมีฉบับไหนถูกคว่ำหรือไม่ต้องรอติดตามกันต่อไป

เมื่อการทำกฎหมายลูกเดินหน้าหมายความว่าเวลาอยู่ในอำนาจของรัฐบาลทหารคสช.ก็เริ่มลดน้อยลงไปด้วยตามลำดับ

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาทำงานที่ผ่านมา และระยะเวลาที่เหลืออยู่ในอำนาจพอจะสรุปฟันธงได้แล้วว่าการรัฐประหารครั้งนี้เสียของแน่แล้วอย่างหนึ่งคือจะไม่สามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติได้

จะเห็นได้ว่าร่างสัญญาประชาคมเพื่อสร้างความปรองดองที่ตีปี๊บมาก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดง แต่เมื่อศึกษาเสร็จแล้วกลับเก็บเงียบไม่ได้ถูกนำออกมาดำเนินการใดๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายว่าเมื่อทำเสร็จแล้วจะเป็นผลศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองอีกเล่มที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก

ความแตกแยกทางความคิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งขั้วแบ่งสีจะยังมีอยู่ต่อไป สถานการณ์ขณะนี้แค่ถูกอำนาจกดทับไม่ให้แสดงออกได้มากเหมือนในอดีตเท่านั้น

ยิ่งรัฐบาลทหารคสช.ใกล้ลงจากอำนาจการแสดงออกซึ่งความแตกแยกทางความคิดจะกลับมารุนแรงเด่นชัดขึ้น โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมนี้ที่ศาลจะตัดสินคดีสำคัญทางการเมืองหลายคดี

แม้จะมีบางคนคิดว่าการเลี้ยงไข้ความแตกแยกให้ดำรงอยู่ต่อไปอาจเป็นหนึ่งในแผนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างอยู่ต่อ หรือเลี้ยงไข้ไว้เพื่อเปิดช่องใช้เป็นเงื่อนไขกลับเข้าสู่อำนาจอีกในอนาคตของกองทัพ

ไม่ว่าจะเพราะทำเต็มที่แล้วได้แค่นี้ หรือจงใจเลี้ยงไข้ไว้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่ประเทศโดยรวม

ความจริงการแตกแยกทางความคิดนั้นไม่ถือว่าเป็นปัญหาเพราะคนสามารถคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือเมื่อแตกแยกทางความคิดแล้วไม่พร้อมที่จะหาข้อยุติด้วยเหตุผล และยังพร้อมเผชิญหน้า พร้อมใช้ความรุนแรงทั้งรูปแบบการใช้กำลังและรูปแบบการใช้อำนาจและกฎหมายทำลายฝ่ายตรงข้าม จนทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม

เมื่อรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมจะทำให้ไม่ยอมรับ ถ้าความรู้สึกนี้สะสมไปมากๆ ในอนาคตคำตัดสินไม่ว่าจะของหน่วยงานไหน องค์กรใด จะถูกปฏิเสธ เมื่อไม่มีหลักยึดให้ปัญหายุติโดยได้รับการยมรับ การเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต

การรัฐประหารครั้งนี้บางทีนอกจากจะเสียของแล้ว หลายกรณีที่คณะรัฐประหารทำยังเป็นปุ๋ยเร่งให้ความขัดแย้งแตกแยกเจริญงอกงามกว่าที่ผ่านมาอีกด้วย

ชัดเจนว่ารัฐประหารครั้งนี้เสียของไปแล้วหนึ่งอย่างคือสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติไม่ได้

ส่วนเรื่องอื่นจะเสียของหรือไม่ก็อยู่ที่เป้าหมายที่แท้จริงของการทำรัฐประหารว่ายึดอำนาจมาเพื่ออะไร


You must be logged in to post a comment Login