- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 24 hours ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
มีดนาโนรักษามะเร็ง / โดย นพ.สมราช ธรรมธรวัฒน์
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/08/628-24.jpg)
คอลัมน์ : พบหมอศิริราช
ผู้เขียน : นพ.สมราช ธรรมธรวัฒน์
มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยเป็นอันดับต้นๆ
ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งตับมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสภาพร่างกายของผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้องอกมะเร็งตับที่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์จะรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด หากไม่สามารถผ่าตัดได้ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาด้วยวิธีการทางรังสีร่วมรักษา ได้แก่ การรักษาด้วยการจี้ก้อนเนื้องอก และการให้ยาเคมีบำบัดผ่านทางสายสวนหลอดเลือด
การจี้ก้อนเนื้องอกเหมาะกับการรักษาก้อนเนื้องอกขนาดน้อยกว่า 3 เซนติเมตร หรือก้อนที่อยู่ในตำแหน่งที่ผ่าตัดได้ยาก สามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ การใช้เข็มให้ความร้อน
อย่างไรก็ตาม การใช้เข็มให้ความร้อนมีข้อจำกัดในก้อนเนื้องอกที่อยู่ติดกับหลอดเลือดหรือท่อน้ำดี เพราะความร้อนทำให้เกิดการบาดเจ็บแก่หลอดเลือดหรือท่อน้ำดีได้
ดังนั้น จึงมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อลดข้อจำกัดนี้คือ การจี้ก้อนเนื้องอกด้วยกระแสไฟฟ้าความต่างศักย์สูงหรือมีดนาโน โดยใช้เข็มอย่างน้อย 2 เล่ม สอดเข้าไปในตำแหน่งของเนื้องอก ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าความต่างศักย์สูงถึง 3,000 โวลต์ ไหลผ่านเซลล์เนื้องอก ส่งผลให้เกิดรูขนาดเล็กจำนวนมากที่เยื่อหุ้มเซลล์แบบถาวร ซึ่งจะทำให้เกิดการตายแบบธรรมชาติ สามารถใช้รักษาก้อนเนื้องอกที่อยู่ใกล้กับหลอดเลือดหรือท่อน้ำดีได้อย่างปลอดภัย
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงถูกนำมาใช้ในการรักษามะเร็งตับอ่อนซึ่งรักษาได้ยากด้วยการผ่าตัด โดยเฉพาะก้อนมะเร็งที่โอบล้อมหลอดเลือดในช่องท้อง วิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของหลอดเลือดในช่องท้อง แต่มีข้อจำกัดคือ ก้อนเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจได้
You must be logged in to post a comment Login