- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 1 month ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 1 month ago
- โลกธรรมPosted 1 month ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 1 month ago
- สลายความเกลียดชังPosted 1 month ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 1 month ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 1 month ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 1 month ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 1 month ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 1 month ago
ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย / โดย Pegasus

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus
ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมของคนไทยพ่ายแพ้ซ้ำซากจนกระทั่งสูญเสียโอกาสไป เนื่องจากการรัฐประหารที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้ต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ความเป็นธรรมและอำนาจของประชาชนกลับมา
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะประชาชนส่วนใหญ่พึ่งพากลุ่มคนเสื้อแดง และบางส่วนยังติดอยู่กับการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร การรอการเคลื่อนไหวของกลุ่มนำเช่นนี้แม้จะทำให้ดูเหมือนมีเอกภาพ แต่หากกลุ่มที่นำไม่ใช่ผู้นำที่ต่อสู้ในแนวทางมวลชนก็จะเกิดปฏิกิริยา “หยุดชะงัก” เพื่อรอคอยการเจรจา ซึ่งการหยุดชะงักคือต้นเหตุของความพ่ายแพ้ทุกครั้ง
ยิ่งการต่อสู้มีเดิมพันเฉพาะตัว เช่นการกลับประเทศของอดีตนายกฯทักษิณอย่างเท่ๆ ก็เท่ากับปิดประตูชนะแล้ว เพราะอดีตนายกฯทักษิณไม่มีวันกลับมาได้ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ไม่ใช่สมบูรณ์แบบที่ “ลุงกำนัน” วางแผนจะให้เป็นไป
หลักประกันความปลอดภัยการเดินทางกลับบ้านของอดีตนายกฯทักษิณ ยิ่งร้อนยิ่งไม่ได้กลับ ยิ่งอยากกลับก็ยิ่งไม่ได้กลับ ซึ่งไม่แตกต่างจากเหยื่อคนต่อไปคืออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากโชคดีก็แค่ยึดทรัพย์สิน หากโชคร้ายก็ต้องติดคุก เพราะการที่อีกฝ่ายจะถอนรากถอนโคนก็ต้องกำจัดหัวขบวนฝ่ายตรงข้ามให้หมดไปทางใดทางหนึ่งเหมือนที่ผ่านมา
การจะปกป้องสนับสนุนทั้ง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” รวมทั้งฝ่ายการเมือง คนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปที่รักความเป็นธรรมและประชาธิปไตยจึงต้องต่อสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกขัดขวางและอาจถูกกระทำด้วยความรุนแรงก็ตาม ต้องเลิกการมองในวงแคบหรือจำกัดเฉพาะเรื่องของตัวบุคคล ต้องยกระดับการต่อสู้ในเชิงอุดมการณ์ให้ได้
ความไม่ต่อเนื่องในการต่อสู้จะเห็นได้ชัดจากพรรคการเมืองที่รอคอยแต่การเลือกตั้ง ไม่ลงพื้นที่เพื่อถามทุกข์สุขของประชาชน โดยเฉพาะในยามข้าวยากหมากแพง พรรคการเมืองไม่สามารถระบุได้ว่าพื้นที่ไหนควรให้นักการเมืองคนใดลงพื้นที่เพื่อคอยช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน มีแต่การทะเลาะแย่งอำนาจกัน เพราะยังเป็นพรรคการเมืองแบบครอบครัว ไม่ใช่มืออาชีพ การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทางการเมืองเสมอไป แต่เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประชาชนเป็นสำคัญ
ในส่วนของมวลชนเองที่ผ่านมาก็หยุดชะงัก เพราะรอดูว่าการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯทักษิณจะไปในทิศทางใด มีการติดต่อกันอย่างไร การใช้เวลากับการรอคอยทำให้เสียโอกาสในการรวมกลุ่ม ปรับทุกข์ ผูกมิตร หรือให้ความรู้ทางการเมือง ซึ่งทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายของฝ่ายผู้มีอำนาจ คือจับกลุ่มไม่เกิน 5 คน เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาซึ่งกันและกันในเวลาทุกข์ยาก
พื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนมวลชนคือ การต่อสู้อย่างหนุนเนื่องต่อเนื่องในทุกเรื่อง ทุกเหตุการณ์ ทุกโอกาส ภายใต้ข้อจำกัดของฝ่ายผู้มีอำนาจ จนกว่าอำนาจจะกลับคืนสู่ประชาชน
การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนจึงไม่มีการหยุดรอ ไม่มีการหยุดเจรจา ต่างคนต่างสู้และสร้างเครือข่ายช่วยเหลือกันและกันโดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ปลุกปั่น เสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา หากทำได้ทุกอย่างก็จะเดินไปตามแนวทางของมันเอง
You must be logged in to post a comment Login