- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อินโดฯใช้ปาล์มแลกเครื่องบิน
รัสเซียตกลงกับอินโดนีเซียในเบื้องต้น โดยรับพิจารณาแผนใช้น้ำมันปาล์มแลกเครื่องบินรบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพิ่มระดับความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน
ความร่วมมือทางการค้าระหว่างอินโดนีเซียกับรัสเซียเท่าที่ผ่านมา มีมูลค่าไม่มากนัก โดยปีที่แล้ว อินโดนีเซียได้เปรียบดุลการค้ารัสเซีย 411 ล้านเหรียญสหรัฐ (13,730 ล้านบาท)
ขณะช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม) มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
สินค้าหลักของรัสเซียที่ขายให้อินโดนีเซีย ได้แก่ เครื่องบินรบ ส่วนอินโดนีเซียส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ซึ่งอินโดนีเซียเป็นประเทศผลิตปาล์มมากที่สุดในโลก และประกาศว่า น้ำมันปาล์มของตนมีคุณภาพดีที่สุดในโลก
สำหรับเครื่องบินรบ อินโดนีเซียซื้อรุ่นซูคอย (Sukhoi) จากรัสเซีย 16 ลำ เมื่อปี 2003 ใช้ประจำการในกองทัพอากาศในปัจจุบัน และปีนี้ทำสัญญาซื้อรุ่นซูคอย ซู-35 (Sukhoi Su-35) ซึ่งเป็นเครื่องบินโจมตีสมรรถนะดีที่สุดของรัสเซีย อีก 11 ลำ
เดิมทีรัสเซียมีแผนให้อินโดนีเซียกู้ซื้อเครื่องบินรบลอตใหม่ดังกล่าว แต่ล่าสุด ทางอินโดนีเซียเสนอส่งน้ำมันปาล์ม ชา กาแฟ แลกเปลี่ยนกับเครื่องบินรบแทนเงินสด โดยไม่เปิดเผยมูลค่าการแลกเปลี่ยน
รัสเซียยอมรับข้อเสนอในเบื้องต้น ด้วยการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU)
ทั้ง 2 ประเทศ ตั้งคณะกรรมการพิเศษ ทำหน้าที่จัดทำรายละเอียดของข้อเสนอ เพื่อใช้เป็นหลักในการแลกเปลี่ยน คาดว่าแผนงานจะแล้วเสร็จ ดำเนินการในภาคปฏิบัติได้ ปลายปีนี้
ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนสินค้า ดำเนินการโดยรัฐวิสาหกิจของ 2 ประเทศ ระหว่างบริษัท Rostec ของรัสเซีย กับบริษัท PT Perusahaan Perdagangan Indonesia ของอินโดนีเซีย โดยมีภาครัฐเป็น “พี่เลี้ยง”
ทั้ง 2 ประเทศมองว่า ข้อตกลงนี้เป็นมาตรการ “Win-Win” ได้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
อินโดนีเซีย มีแผนเพิ่มส่งออกน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มไปยังรัสเซีย เพื่อชดเชยยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่ลดลง อีกทั้งมีแผนขยายความร่วมมือกับรัสเซียสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภาคการศึกษา พลังงาน และเทคโนโลยีด้วย
ขณะรัสเซีย ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจค่อนข้างหนัก มีอินโดนีเซียเป็นตลาดทำรายได้ส่วนหนึ่ง และถือเป็นการขยายตลาดยุทโธปกรณ์ในภูมิภาคอาเซียนแข่งกับจีน
นอกจากอินโดนีเซียแล้ว ปัจจุบัน รัสเซียยังมีมาเลเซีย และเวียดนาม เป็นลูกค้าซื้อยุทโธปกรณ์ และอยู่ระหว่างเจรจากับฟิลิปปินส์
You must be logged in to post a comment Login