- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
รอพ้นไคลแมกซ์
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เป็นการป้องปรามที่ได้ผลเกินคาด หลังจากที่ตำรวจเรียกเจ้าของรถตู้ที่รับว่าจ้างนำคนมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันแถลงปิดคดีจำนำข้าวเมื่อต้นเดือนมาปรับคันละ 50,000 บาท ข้อหา ใช้รถในการขนส่งนอกเส้นทางหรือนอกสถานที่ที่ได้รับอนุญาต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและใช้รถผิดประเภทโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังกรณีนี้ทำให้บรรดาเจ้าของรถตู้ที่รับมัดจำค่าจ้างนำคนมาให้กำลังใจอดีตนายกฯวันศาลอ่านคำพิพากษา 25 สิงหาคมนี้ ต่างพากันคืนเงินมัดจำ ไม่ขอรับงาน เพราะได้ไม่คุ้มเสีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อยังมีเวลาอีกหลายวัน เจ้าของรถตู้ที่ได้รับการว่าจ้างน่าจะลองใช้สิทธิขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอนกฎหมายดูว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่
ถ้าอนุญาตก็รับงานได้โดยไม่มีความผิด หากไม่อนุญาตก็ต้องดูเหตุผลว่าทำไมไม่อนุญาต
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุว่าวันศาลอ่านคำพิพากษาจะเข้มงวดการเดินทางอาจหมายถึงรถตู้ รถบัส เพราะบอกว่าหากประชาชนที่ต้องการเดินทางมาให้กำลังใจอดีตนายกฯจะมาด้วยรถไฟ เครื่องบิน ไม่ห้าม ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่าไม่รู้จะห้ามอย่างไร เพราะเครื่องบิน รถไฟ เป็นการให้บริการต้นทางถึงปลายทางตามปรกติ ไม่สามารถเหมาลำเหมาขบวนให้มาส่งที่หน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้
แม้ในทางการข่าวจะไม่มีอะไรน่าหนักใจ แต่การเข้มงวดเรื่องเหมารถตู้รถบัสมาให้กำลังอดีตนายกฯก็ทำให้มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าวันอ่านคำพิพากษาที่หน้าศาลฎีกาฯจะมีคนมาไม่มาก
หากจับปฏิกิริยาจากฝ่ายคุมอำนาจรัฐจะเห็นว่าแม้มีอำนาจมาก แต่ยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ทางการเมือง โอกาสในการปลดล็อกให้พรรคการเมืองจัดประชุมหรือเคลื่อนไหวได้จึงถูกอธิบายด้วยประโยคที่ว่า
“ขณะนี้จะยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือง ขอให้รอก่อน เพราะเรายังไม่รู้อะไรเลย และตอนนี้สถานการณ์ยังไม่สงบ ยังไม่นิ่งพอ นอกจากนี้ เรื่องคดีความต่างๆก็ยังไม่จบ…ตอนนี้เรื่องปลดล็อกยังไม่รู้ ไว้ผมสบายใจ แล้วผมจะปลดล็อกก็แล้วกัน”
ประโยคนี้ของ พล.อ.ประวิตร โฟกัสไปที่คำตัดสินคดีเกี่ยวกับการเมืองหลายคดีที่จะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลเล็กน้อย ทั้งที่ตามหน้าเสื่อแล้วความมั่นคงทางการเมืองของรัฐบาลน่าจะอยู่ในระดับดีเยี่ยม ไม่มีใครสามารถทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพได้
แล้วอะไรคือความไม่สบายใจทั้งที่มีอำนาจในมือ
ต้องตามดูกันต่อไปว่าหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้วรัฐบาลจะปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมเพื่อแต่งตัวรอลงสู่สนามเลือกตั้งหรือไม่
ทั้งนี้ หากผ่านเดือนสิงหาคมไปได้โดยไม่เกิดแรงกระเพื่อมจากคำพิพากษาคดีสำคัญทางการเมืองหลายคดี บางทีผู้มีอำนาจอาจสบายใจมากพอที่จะปลดล็อกให้พรรคการเมืองเริ่มกลับมาทำกิจกรรมได้
You must be logged in to post a comment Login