วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ประชามติจบแล้ว แต่คดียังไม่จบ! / โดย ilaw.or.th

On August 14, 2017

คอลัมน์ : ข่าวไร้พรมแดน

ผู้เขียน : ilaw.or.th

1 ปีที่ผ่านมา หากใครที่ติดตามข่าวสารคงจะคุ้นหูอยู่บ้างกับข่าวเหตุการณ์การจับกุมผู้รณรงค์เรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ หรือถ้าใครยังนึกไม่ออกเราจะเล่าให้ฟัง แม้ว่าวันนี้ประชามติ 7 สิงหาคมจะจบลงแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติประกาศใช้เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ที่ใช้เสรีภาพในการรณรงค์หรือวิพากษ์วิจารณ์ประชามติยังคงต้องเผชิญกับคดีความ

จากการรวบรวมข้อมูลของ iLaw พบว่า มีผู้ใช้เสรีภาพจำนวนไม่น้อยกว่า 203 คนถูกดำเนินคดี โดยในจำนวนนี้ 43 คนถูกดำเนินคดีฐานขัด พ.ร.บ.ประชามติฯ ขณะที่อีก 160 คนถูกดำเนินคดีฐานชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน

จับใครบ้าง?

คนที่โพสต์ข้อความคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญบนเฟซบุ๊ค

กรณีแรกคือ “จีรพันธ์” ชาวขอนแก่น ที่โพสต์ทั้งภาพและข้อความไปในทำนองคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อความที่มีคนเห็นว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายการออกเสียงประชามติ ต่อมาคือกรณีของ “ชูวงศ์” ทนายความและเป็นแกนนำกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน จ.กระบี่ ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวแสดงความคิดเห็นว่า จะไปลงประชามติ แต่จะไม่รับร่างประชามติฉบับโจรปล้นชาติ หรืออีกกรณีหนึ่งคือ “กฤษกร” ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน จากการโพสต์ความคิดเห็นส่วนตัวว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ถูกตีความว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 61 วรรค 2

การรณรงค์เกี่ยวข้องกับประชามติ

สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยและสหภาพแรงงานไทรอัมพ์แจกเอกสารรณรงค์ประชามติและเอกสารให้ความรู้เรื่องการออกเสียงนอกเขตจังหวัด การแจกเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญของ “จตุภัทร์” หรือไผ่ ดาวดิน และ “วศิน” ที่ตลาดภูเขียว จ.ชัยภูมิ การแจกใบปลิวโหวตโนของ “สามารถ” ที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า จ.เชียงใหม่ การเผยแพร่จดหมายเอกสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.เชียงใหม่ หรือการตะโกนชวนคนไม่ต้องไปลงประชามติของ “วิชาญ” ที่ จ.อุบลราชธานี เหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามมาตรา 61 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.ประชามติฯ

จับใครอีก?

การเปิดศูนย์ปราบโกงตรวจสอบประชามติ

วันที่ 19 มิถุนายน 2559 กลุ่ม นปช. ได้นัดหมายกันเปิดศูนย์ปราบโกงเพื่อตรวจสอบกระบวนการลงประชามติในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น กรุงเทพฯ ราชบุรี แพร่ สกลนคร หนองบัวลำภู อุดรธานี และสุรินทร์ เป็นต้น กระบวนการเปิดศูนย์ปราบโกงอาจเป็นการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหรือชักชวนเพื่อนๆมาถ่ายรูปกับป้ายศูนย์ปราบโกงในจังหวัดต่างๆ ลักษณะเช่นนี้ถูกตีความว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน

แล้วใครอีกบ้าง?

การจัดกิจกรรมเสวนาเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ

การจัดกิจกรรมเสวนาเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องพูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสานที่ ม.ขอนแก่น เป็นการพูดคุยให้ความรู้และความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ภายหลังกลับถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ในคดีนี้ไม่เฉพาะผู้จัดกิจกรรมเสวนาเท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่นักสังเกตการณ์กิจกรรมเองก็ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน

การถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ฉีกบัตรออกเสียง

ความสับสนของลักษณะบัตรออกเสียง ทำให้วันลงประชามติมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกว่า 11 คนฉีกบัตรออกเสียง แต่มีเพียงกรณีเดียวที่ฉีกบัตรด้วยความตั้งใจ คือกรณีของ โตโต้ ปิยรัฐ โดยเขารับรู้ถึงผลของการกระทำว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 59 ในระหว่างที่เขาฉีกบัตรนั้น “ทรงธรรมและจิรวัฒน์” เพื่อนของปิยรัฐที่ยืนอยู่นอกหน่วยออกเสียง ได้ถ่ายวิดีโอการฉีกบัตรและเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มองว่าลักษณะดังกล่าวเป็นความผิดฐานร่วมกันก่อความวุ่นวายกับปิยรัฐในหน่วยออกเสียง ตามมาตรา 60(9) ของ พ.ร.บ.ประชามติฯ

มาจนถึงวันนี้ครบรอบ 1 ปีของประชามติ 7 สิงหาคม มีผู้ที่ใช้เสรีภาพที่อยู่ระหว่างการสู้คดี 147 คน มีประชาชนอีกจำนวน 33 คนที่ต้องยินยอมปรับทัศนคติในค่ายทหารเพื่อแลกกับการสิ้นสุดคดีด้วยความยากลำบากในระหว่างการพิจารณาคดี แต่ยังพอมีข่าวดีกับเสรีภาพอยู่บ้าง อย่างการยกฟ้องคดี 1 คน และอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 คน ขณะที่ยังมีประชาชนอีกจำนวน 18 คนที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งฟ้อง นอกจากนี้ยังมีอีก 3 คนที่ไม่ทราบความเคลื่อนไหว


You must be logged in to post a comment Login