- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย? / โดย Pegasus
คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus
หลายคนคงได้ยินที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวย้ำเสมอว่า “จะยอมตายเพื่อประชาธิปไตย” แม้ยังมีคดีความอีกมากมายรออยู่ก็ตาม ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการอาศัย “ตุลาการภิวัฒน์” ที่ไม่เป็นไปตามกลไกปรกติเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งฝ่ายผู้มีอำนาจสามารถใช้อำนาจที่อยู่ในมือจัดการได้อย่างง่ายดาย
หลายฝ่ายเชื่อว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ย่อมรู้ดีถึงชะตากรรมว่ายากจะพ้นบ่วงมารเหล่านี้ไปได้ ทั้งที่โดยปรกติหรือสามัญสำนึกแล้ว การต่อสู้ทางการเมืองที่ฝ่ายหนึ่งต้องการเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งควรเป็นไปตามกฎกติกา ไม่ใช่ทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด คิดแต่จะกำจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซากเท่านั้น ซึ่งสมัยปัจจุบันน่าจะไม่มีแล้ว
ปัญหาคือความกลัวของฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่เห็นว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์มีบารมีมากเกินไปจึงมีคนให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งที่ในวันแถลงปิดคดีมีแค่หลักพันเท่านั้น แต่ความกลัวของฝ่ายตรงข้ามก็ยังมีอยู่ ยิ่งวันฟังคำพิพากษาคดีที่หลายฝ่ายเห็นว่าหลักฐานและพฤติกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ต่างกับ “หมาป่ากับลูกแกะ” แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยิ่งกลัวมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเป็นอันตรายต่ออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในอนาคตอันใกล้ด้วยเช่นกัน
อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะมีความผิดหรือไม่ก็ต้องเป็นดุลยพินิจของศาล แต่ถ้ามองว่าทำไมอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ยอมที่จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ หรือยอมเข้าตาจนเพียงเพื่อจะบอกกับสังคมว่าสิ่งที่ได้บริหารเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งจะช่วยประชาชนโดยเฉพาะชาวนาอย่างแท้จริง ขณะที่อีกฝ่ายพยายามจะลดหรือเลิกสวัสดิการต่างๆของประชาชนที่เกิดจากพรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนต่างๆ แม้แต่การเข้ามาควบคุมพุทธศาสนา
กระแสทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจึงเห็นได้ชัดเจน อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ก็หนีไม่พ้นการทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยมเช่นกัน แต่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทยมาก่อนคือ การปลุกให้ประชาชนที่หลับใหลตื่นและลุกขึ้นสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย
มีบางคนเปรียบเทียบอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์กับนางออง ซาน ซู จี ซึ่งถูกกักบริเวณมายาวนาน แต่ก็ไม่ละทิ้งอุดมการณ์ แต่กรณีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์น่าจะหนักกว่ามากคือ อาจถูกจำคุกเช่นเดียวกับเนลสัน แมนเดลา หรือมหาตมะ คานธี หรือเลวร้ายอย่างมาร์ติน ลูเธอร์คิง ที่ถูกลอบสังหาร เพราะอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่เป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริงเท่านั้น แต่ยังต่อสู้กับกลุ่มคนที่มอง “คนไม่เท่ากัน” เป็นการเหยียดชนชั้น เอารัดเอาเปรียบผู้ด้อยโอกาสโดยผู้มีโอกาส ซึ่งก็คือการกดขี่ขูดรีดทางชนชั้น “ทำนาบนหลังคน” โดยเฉพาะความทุกข์ยากของชาวนาชาวไร่ที่น้ำตาตกมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
ชัยชนะของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในอนาคตไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม จะส่งผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมและวัฒนธรรมไทย
ความยุติธรรมหรืออยุติธรรมที่มีต่ออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ว่าจะออกมาในลักษณะใดก็จะเหมือนการปลุก “ยักษ์หลับ” คือประชาชนคนไทย โดยเฉพาะคนรากหญ้าให้ตระหนักถึงคำว่า “ประชาธิปไตย”
You must be logged in to post a comment Login