- เสียเพราะรักPosted 16 hours ago
- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 2 days ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 3 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 4 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 5 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 1 week ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 1 week ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 2 weeks ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 2 weeks ago
ไปรษณีย์ไทยก้าวสู่15ปีมุ่งสู่“ไปรษณีย์ 4.0”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/08/let.jpg)
พลเอกสาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสก้าวสู่ 15 ปี บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ 134 ปี กิจการไปรษณีย์ไทย ด้วยการปรับตัวและยกระดับสู่ “ไปรษณีย์ 4.0” มาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า ให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2562 เน้นการทำงานที่มีมาตรฐานด้วยการควบคุมดูแลอย่างทั่วถึง เพื่อส่งต่อบริการและภาพลักษณ์ที่ดีสู่ภายนอก สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยการผลักดันเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายของไปรษณีย์ ที่มีที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ น้อมนำแนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันสังคม และชุมชน กระตุ้นการหมุนเวียนของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น และยกระดับอีคอมเมิร์ซระดับชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ได้รับมาตรฐาน มีตลาดรองรับที่กว้างขวาง โดยเริ่มนำร่องด้วยการปรับปรุงตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วยคิวอาร์โค้ด ภายใต้ชื่อ “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” นวัตกรรมตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะยุค 4.0 ที่เปลี่ยนตู้ไปรษณีย์ธรรมดาให้สามารถให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเป็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นให้มีความไหลเวียนมากขึ้น ณ ปัจจุบันจะทำการนำร่องติดตั้งตู้ดังกล่าวในจังหวัดพิษณุโลก จำนวนรวมทั้งสิ้น 15 ตู้ กระจายไปทุกอำเภอในจังหวัด พร้อมมีแผนเตรียมขยายไปพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ภายในปีนี้
พลเอกสาธิต กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ที่เติบโต และอยู่เคียงข้างกับประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมรองรับนโยบาย และโครงการต่างๆ ของทางรัฐบาล อาทิ แผนงานอีคอมเมิร์ซ 4.0 ร่วมกับส่วนงานราชการ และหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ พัฒนาผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซและสร้าง “ดิจิทัลชุมชน” ให้บริการมาร์เก็ตเพลส (Marketplace) ผ่านเว็ปไซต์และแอพพลิเคชั่น แผนการรองรับการขยายตัวของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) วางแผนการจัดตั้งศูนย์โลจิสติกส์ฮับที่ครอบคลุมเข้มแข็ง เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน อำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวเสริมว่า ด้านผล การดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรก ระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2560 ไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 13,473 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,979 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ โดยรายได้จากการเติบโตส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งมาจากเกิดเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 6 พันล้านบาท ทั้งนี้เป้าหมายรายได้ของปี 2560 อยู่ที่ 26,000 ล้านบาท และประมาณการผลกำไรสุทธิประมาณ 3,300 ล้านบาท
นางสมร กล่าวต่อว่า ไปรษณีย์ไทย ยึดหลักในการดำเนินการที่จะต้องเติบโตควบคู่กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงได้ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศในการผลักดันเศรษฐกิจระดับฐานราก พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ผ่านการพัฒนา 3 ส่วนหลักตอบโจทย์ความต้องการผู้ประกอบการชุมชน ได้แก่ 1) e-Marketplace & Platform ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (www.thailandpostmart.com) เพื่อเป็นมาร์เก็ตเพลสระดับประเทศ พื้นที่ฝากขายสินค้าที่รวบรวมสินค้าชุมชนจากผู้ประกอบการทุกพื้นที่ในประเทศไทย 2) e-Logistics คิดค้นและพัฒนาช่องทางส่งของให้กลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ อาทิ กล่องฟอร์คอมเมิร์ซ กล่องลดต้นทุน หนุนธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ บริการนำจ่ายให้ผู้รับปลายทาง C2C Fulfillment Solution เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองให้ได้รับสิ่งของที่รวดเร็วขึ้น และ บริการกำหนดจุดรับสินค้า (Drop Off) เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสถานที่รับสินค้าที่สะดวกได้ 3) e-Payment พัฒนาระบบการชำระค่าสินค้าและบริการ ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สู่การเป็นดิจิทัลวอลเล็ท (Digital Wallet) รองรับสังคมไร้เงินสด นางสมร กล่าวต่อ
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกัน ไปรษณีย์ไทย มุ่งหน้ายกระดับสู่ “ไปรษณีย์ 4.0” ด้วยการขับประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้กับระบบงานในทุกกระบวนการ ได้แก่ กระบวนการรับฝาก คัดแยก ส่งต่อ และนำจ่าย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานที่เข้มข้นมากขึ้น โดยจะทำการจัดตั้งเครือข่ายรถยนต์สำหรับรับฝากสิ่งของ ณ ที่อยู่ลูกค้ากลุ่มอีคอมเมิร์ซ นำร่องที่ที่การไปรษณีย์ในเขตกรุงเทพฯ 10 แห่ง ได้แก่ สามเสนใน หลักสี่ ปากเกร็ด จระเข้บัว รังสิต คลองจั่น ภาษีเจริญ ยานนาวา พระโขนง และพระประแดง เพิ่มจำนวนตู้บริการ iBox เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบริเวณห้องรอจ่าย จัดตั้งจุดรับสิ่งของที่อยู่ใกล้บ้าน (Drop Station) โดยตั้งเป้าในการจัดตั้งทั้งหมด 80 จุดเพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการทั่วประเทศ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการให้รองรับกับความต้องการของคนไทย รวมไปถึงระบบเครือข่ายการขนส่งและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นพัฒนา ขับเคลื่อนความสำเร็จของชุมชนโดยใช้พื้นที่ที่ทำการไปรษณีย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เมืองไทยเป็น “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่นำไปสู่ความสุขที่แท้จริง นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
You must be logged in to post a comment Login