วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การแต่งงานกับทัศนคติที่เปลี่ยนไป / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

On August 21, 2017

คอลัมน์ : China Today

ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

เรื่องราวของการดำเนินชีวิตประจำ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมความคิดความเชื่อของคนชาตินั้นๆได้อย่างดี การแต่งงานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความเชื่อของชาวจีน รวมไปถึงจารีตประเพณีอีกด้วย แต่ทว่าเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ความคิดและทัศนคติของตนย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

หลู่ ชิงหลิน ชายวัย 80 ปี อาชีพชาวนา

เขาเล่าว่า เขาแต่งงานเมื่อปี ค.ศ. 1956 เมื่อเขาอายุได้ประมาณ 20 ปี ปัจจุบันอาจจะดูว่ายังเด็กมาก แต่สำหรับในสมัยของเขาแล้ว ถือว่าช้ามาก ในช่วงทศวรรษที่ 50 แม่สื่อจะมีหน้าที่เชิญหญิงสาวชายหนุ่มที่มีอายุประมาณ 17-18 ปีมาพบหน้ากันเพื่อดูตัว หลู่เป็นลูกชายคนที่ 2 ของบ้าน พี่ชายคนโตได้ไปร่วมรบเป็นทหารในการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ. 1949

หลังจากนั้นไม่นาน มีแม่สื่อมาหาเขาที่บ้านเพื่อเสนอเจ้าสาวให้แก่เขาและพยายามบรรยายถึงความดีและความสามารถของหญิงสาวผู้นั้นให้แก่เขาฟัง ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็รู้สึกชื่นชอบและพร้อมที่จะรับหญิงคนนั้นเข้ามาเป็นลูกสะใภ้

ต่อมาเมื่อพี่ชายของเขาเดินทางกลับมาที่บ้านก็ต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบหรือรู้จักมาก่อน หลังจากนั้นก็ถึงตาของเขาบ้าง แต่พ่อแม่ของเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับคุณสมบัติของว่าที่ลูกสะใภ้รองสักเท่าใดนัก ประเด็นหลักของหน้าที่ลูกสะใภ้ก็คือการให้กำเนิดทายาทแก่เขา

หญิงสาวเพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่าให้ตัวเขาฟังว่า หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยนั้นหน้าตาสะสวย ทำงานเก่ง ที่สำคัญต้องการสามีที่มีภูมิหลังครอบครัวที่ดีมาเป็นคู่ชีวิต ซึ่งในเวลานั้น ครอบครัวของเขากำลังประสบกับปัญหา ทางเดียวที่จะช่วยครอบครัวเขาได้ก็ด้วยการแต่งงาน แต่จะทำอย่างไรให้เขายกลูกสาวให้ ก็ต้องใช้เทคนิคตบตาว่าที่บ้านมีฐานะดี ซึ่งได้ผล พ่อแม่หญิงสาวยินดียกลูกสาวให้แก่เขา

สำหรับตัวเขาเองนั้น เขาไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน เพราะพ่อแม่ของเขาเป็นผู้จัดการเกือบทั้งหมด และตั้งแต่วันที่เขาสองคนแต่งงานกันก็อยู่กันอย่างมีความสุขเรื่อยมา ภรรยาของเขาเป็นแม่บ้านที่ดี เป็นแม่ที่ดีของลูกๆและทุกวันนี้พวกเขาก็ยังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ซึ่งนับได้ก็เกือบ 70 ปีแล้ว

หลิว อิง หญิงวัย 58 ปี อาชีพพนักงาน

เธอแต่งงานเมื่อปี ค.ศ. 1983 ขณะนั้นเธอมีอายุได้ 24 ปี และสามีของเธออายุได้ 27 ปี สามีของเธอเป็นเพื่อนร่วมงานของแม่ของเธอและเป็นผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยน

ในขณะนั้นสุขภาพของเธอไม่ค่อยดี แต่ว่าที่สามีของเธอในขณะนั้นได้มาเยี่ยมและหมั่นมาคอยดูแลเธอทุกวัน ดังนั้นพ่อแม่ของเธอจึงค่อนข้างชอบและต้องการให้เขาแต่งงานกับพี่สาวของเธอ แต่เขากลับบอกพ่อแม่ของเธอว่าเขารักเธอ ซึ่งตัวเธอเองไม่ค่อยเห็นด้วยในตอนแรกเพราะความฝันของเธอขณะนั้นคือการได้แต่งงานกับอัศวินขี่ม้าขาวต่างหาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าชายขี่ม้าขาวกลับมาอยู่ตรงหน้าเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา

ในยุคสมัยของเธอ ผู้คนก็ยังไม่ค่อยมีการพูดถึงเรื่องความรักกันเท่าใดนัก การแต่งงานเป็นเพียงการอาศัยอยู่ร่วมกันเท่านั้นและที่สำคัญอีกอย่างก็คือ การแต่งงานเพื่อพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย เธอและคู่หมั้นของเธอไม่ค่อยได้มีโอกาสพบหน้ากันสักเท่าใดนัก ทุกครั้งที่เขามาที่บ้าน เขาก็มักจะคุยกับพ่อแม่ของเขาอย่างสนุกสนาน แต่กลับปล่อยให้เธออยู่คนเดียวโดยไม่สนใจ ผู้คนส่วนใหญ่ยังเป็นพวกหัวโบราณอยู่และพ่อแม่ของเธอไม่อนุญาตให้เธอกับคู่หมั้นของเธออยู่ด้วยกันตามลำพัง

ในงานแต่งงานของเธอ มีเพียงงานแต่งงานและการฉลองโต๊ะจีนพร้อมกับญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง ส่วนของขวัญแต่งงานของเธอมีเพียงเตียงไม้ที่เขาซื้อมาให้เธอเท่านั้น ทั้งๆที่ความจริงแล้ว หนุ่มสาวส่วนใหญ่ต้องการบ้านหรือรถเป็นของขวัญแต่งงาน  แต่ในสมัยของเธอ การมีสามีที่ดูดีและมีฐานะก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว

หลี่ ซื่อไห่ ชายวัย 35 ปี อาชีพนักเขียน

แม้ว่าการแต่งงานของเขาจะล้มเหลว แต่เขาก็ยังเชื่อว่าการแต่งงานถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ เขาไม่ต้องการที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาต้องการแต่งงานกับหญิงที่เขารักและมีลูกที่น่ารักกับเธอ เขาแต่งงานเมื่ออายุได้ 24 ปี เป็นช่วงที่จีนเปิดประเทศ พวกเขาอ่านและพบเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตรักที่แสนจะโรแมนติกจากสื่อต่างๆ ทำให้ความคาดหวังในการครองคู่ของเขาค่อนข้างสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้พบกับหญิงที่จะแต่งงานด้วยแต่เนื่องจากเธอเป็นหญิงที่มีความทะเยอทะยานสูง ทำให้สุดท้ายเขาทั้งสองคนไม่สามารถลงเอยกันด้วยดีและต้องมีอันต้องเลิกรากันไป


You must be logged in to post a comment Login