- ต้องควบคุมผัสสะให้ดีPosted 6 hours ago
- วัดสวนแก้วจัดงานวันเด็กปี 68Posted 1 day ago
- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 2 days ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 3 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 4 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 1 week ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 1 week ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 1 week ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 2 weeks ago
ถ้อยทีถ้อยอาศัย / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
สำหรับแฟนลิเก ช่วงนี้ที่ฮอตที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกิน “ศรราม น้ำเพชร” ละครโทรทัศน์ลิเกที่มีหลายเรื่องหลายรส แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะมีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นลิเกชั่วลิเกไม่ดีอะไรทำนองนี้
พูดถึงเรื่องลิเกแต่งกายเลียนแบบพระก็เป็นเรื่องที่มีมาช้านานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเกิด แต่งเลียนแบบแล้วทำดี สอนดีก็ไม่มีใครต่อว่าต่อขาน อย่างเรื่อง “หลวงพี่เท่ง” ก่อนหน้านี้ที่เอาคำสอนคำเทศน์ของอาตมาไปใส่ปาก “พระเท่ง” ให้พูดให้สอนไว้ในภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้ได้เงินไปเยอะ จำได้ว่า “โน้ต เชิญยิ้ม” ได้นำเงินมาถวายที่วัดสวนแก้วด้วย 100,000 บาท บอกว่าได้จากหนังที่เอาเรื่องคำสอนที่อาตมาบรรยายไว้ไปใช้ประกอบการแสดง
ถ้าเล่นบทพระแล้วก็ขอให้เล่นเรียบร้อยหน่อย สอดแทรกคำสอนที่ดี อย่าง “สรพงษ์ ชาตรี” ที่เล่นเรื่อง “หลวงตา” แต่ละตอนก็มีคำสอนดีๆที่เป็นประโยชน์ ไม่เหมือน “หลวงตา” สมัย “ล้อต๊อก” ที่เน้นไปทางตลกไปหน่อย ไม่ค่อยจะมีเนื้อหาสาระเท่าไรนัก แต่ที่แย่ที่สุดคือ แต่งพระแล้วดันกลัวผีขึ้นสมอง
พูดถึงเรื่องผีไม่ได้ ขนลุกขนพอง เพราะหากพระกลัวผีแล้วไม่รู้จะเหลืออะไรในความเป็นพระ ตรงนี้อาจเป็นเรื่องเสียหายที่แต่งเลียนแบบพระ แม้คนไทยจะไม่ถือสา แต่ในแง่ของกฎหมายอาจมีปัญหา ทั้งที่สามารถใช้สีจีวรเป็นสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สีเหลือง หรือทำท่านุ่งห่มคล้ายๆก็ว่ากันไป เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีพระเทียม พระที่ไปห่มจีวรเขียวบ้าง จีวรดำบ้าง
ถ้าเราอยู่ร่วมกันแบบสังคมดั้งเดิม ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ถือสากล่าวโทษกัน แต่ก็ต้องตำหนิแรงๆกันบ้างไม่ได้ เพราะรักหรือห่วงใยพระศาสนาไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ภาพพจน์ ก็ติงกันไว้หน่อย พอหอมปากหอมคอก็แล้วกัน อย่าไปถือโทษโกรธจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ ปรองดองกันไม่ได้
ฝ่ายที่เอาไปแต่งไปเล่นเป็นละครจึงต้องพึงสังวรไว้นิดหนึ่งว่า มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่าไปทำอะไรที่หยาบเกินไป พระพูดให้แลเป็นพระ เป็นธรรมะ เป็นอย่างคำสอนหน่อย ไม่ใช่แต่งเป็นพระแล้วพระกลัวผี เพราะพระจับไม้จับมือสีกาในยามคับขัน ในทางวินัยก็อนุญาต เช่น ผู้หญิงตกน้ำจะจมอยู่แล้ว พระจะมามัวหาผ้าหาเชือกมาดึงก็คงจะจมตาย หรือน้ำเชี่ยวกรากก็ต้องรีบเอามือดึงกระชากขึ้นมา อย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา
อย่างในละครที่ “ศรราม” บอกว่า ผู้หญิงจะคลอดลูกเนี่ย พระก็เหมือนไปรดน้ำมนต์ให้เด็กรอดปลอดภัย แต่ช่วงนั้นคนเจ็บคนปวดท้องจะคลอด คว้าอะไรได้ก็คว้า หยิบอะไรได้ก็หยิบ อาจจับมือพระหวังเป็นที่พึ่งที่อุ่นใจให้รอดตายในการคลอดลูก อย่างนี้มันก็พอจะอนุโลมได้
พระจับผู้หญิงผิดจึงต้องเติมคำว่า “ภิกษุกำหนัดอยู่ จับต้องกายหญิง” อันนี้ไม่สมควรแน่ เป็นอาบัติ เกือบปาราชิกเลยแหละ เขาเรียกว่า “สังฆาทิเสส” หมิ่นเหม่ต่อการขาดจากการเป็นพระ ก็ไม่ต้องซีเรียสตึงเครียดอะไรกันมากมาย แต่ขอให้คอยระวัง อย่าย่ามใจจนเลยเถิด ตำหนิติเตียนก็เป็นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login