วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กองทุนต้านความรุนแรง / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On August 21, 2017

คอลัมน์ : พระพยอมวันนี้

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

เมืองไทยเรามีทั้งเรื่องปลื้มใจ เรื่องเศร้าใจ สลับกันไปมา เช่น กรุงเทพฯถูกยกย่องให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุด คือมาเที่ยวเมืองไทยแล้วไม่ขาดทุน ได้รับความสุขคุ้มค่ากับเงินที่นำมาจ่ายมาใช้ ก็เป็นที่ปลื้มใจของท่านนายกรัฐมนตรี หรือเมื่อไม่กี่วันมานี้ที่มีคุณยายอายุ 91 ปีเรียนจบปริญญาตรี นี่ก็ถือว่าสุดยอดและเป็นที่น่าปลื้มใจของประเทศไทย

ถ้าประเทศไทยมีแต่เรื่องน่าปลื้มอย่างนี้ก็น่าจะรักษาแชมป์เมืองน่าท่องเที่ยวไว้ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ปลื้มไม่ออก เช่น เรื่องความโหดร้ายป่าเถื่อน ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสิ้นสุดจากเมืองไทย คดีอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงาที่ถูกคุมขังที่ดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) แต่กลับผูกคอตายปริศนา ศาลท่านไม่เชื่อ ผูกคอตายบ้าบออะไรตับแตกเลือดตกใน ยังดีที่น้องชายผู้ตายคอยคุ้ยเขี่ยเกาะติดให้เกิดความเป็นธรรม

เรื่องที่ดินที่พังงาและใกล้เคียงรู้กันดีว่ามีคนเกี่ยวข้องมากมาย เพราะมีผลได้ผลเสียเป็นพันล้านหมื่นล้าน ตัวใหญ่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องหนาวๆร้อนๆ เหมือนกรณีคุณเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ถูกลักพาตัวไปฆ่าที่ภาคใต้ ไม่สามารถจัดการผู้บงการได้ ปล่อยให้เรื่องจบไปแบบโหดๆร้ายๆ

ตั้งแต่ต้นปีมาถ้ารวมสถิติโหดร้ายป่าเถื่อนก็มีไม่น้อย เชือดหั่นศพ ฆ่าพระฆ่าเณร คนแก่ เด็ก ผู้หญิงถูกทำร้ายทารุณมากมาย เหมือนผีห่าซาตานลงมาที่เมืองไทย ยังดีที่มีคนอย่างคุณปวีณา หงสกุล ออกมาช่วยปกป้องคุ้มครองคนที่โดนทำร้าย เป็นแม่พระของคนที่ถูกทารุณกรรม ก็หวังว่าเมืองไทยจะถึงเวลาทำบุญเพื่อลดความป่าเถื่อนโหดร้าย เปลี่ยนจากทำบุญสร้างเจดีย์ โบสถ์ วิหาร มาเป็นกองทุนต้านความรุนแรง ต้านความป่าเถื่อนโหดร้ายกันบ้าง

สิ่งใดที่ทำให้เกิดความโหดร้ายป่าเถื่อนก็ต้องแก้ไขให้ลดลง ยุติลง พวกเราต้องร่วมกัน เช่น ตั้งกองทุนอุดหนุนคนอย่างคุณปวีณา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมตตา นิพพาน ถ้าคนมีความฝันใหญ่อยากอยู่เย็นเป็นสุขก็ต้องร่วมกันลงทุนลงแรงสร้างความร่มเย็นเป็นสุข ขจัดความโหดร้ายป่าเถื่อนด้วยความเมตตา ปรารถนามรรคผลของศาสนามาระงับดับความโหดร้ายป่าเถื่อน อารมณ์ของพระนิพพานจะทำให้เกิดความร่มเย็นได้

อยากเห็นสังคมไทยได้ปลื้มใจว่ากรุงเทพฯได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่า หรือดีกว่าคนชราเรียนหนังสือจบปริญญาตรี แม้เป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่เท่ากับคนไทยเป็นคนมีน้ำใจ ใจดี ไม่โหดร้าย หรือเป็นถึงนายพลแต่ใช้เครื่องแบบอุ้มรีดไถนักธุรกิจชาวต่างชาติ นักเรียนพกอาวุธแทนอุปกรณ์การเรียน อย่างนี้เรียกว่าสังคมแย่เต็มที

แม้แต่เรื่องที่ดินก็ยังเกิดเหตุการณ์พิสดารใช้ถุงเท้าผูกคอตาย หรือคำพิพากษาเรื่องโฉนดที่ดินว่าผู้รับโอนไม่มีสิทธิเท่ากับผู้โอน แล้วกรมที่ดินโอนให้ทำไม มีเจ้าหน้าที่กุลีกุจอทำ หักเงินค่าโอนเปลี่ยนมือได้เงินภาษีเข้ารัฐ แต่ความวิบัติเสียหายกลับตกแก่ผู้ที่รับโอนโฉนดที่ดินจากกรมที่ดิน จากข้าราชการของแผ่นดินไทย อย่างนี้ต้องถามว่าโหดมั้ย เสียเงินไป 10 ล้านแต่ไม่ได้ที่ดิน ได้แต่กระดาษโฉนด

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login