- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จับตาปฏิกิริยา
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เหลือเวลาอีก 3 วัน จะถึงวันนัดอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ดูเหมือนว่าฝ่ายความมั่นคงมีความเคลื่อนไหวคึกคักมากเป็นพิเศษ
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และซักซ้อมทำความเข้าใจแผนปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการประเมินของฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าจะมีคนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หน้าสำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่มากอยู่ในระดับ 3,000-3,500 คน
การรักษาความสงบเรียบร้อยเบื้องต้นใช้กฎหมายปรกติโดยให้ตำรวจรับหน้าเสื่อดำเนินการ ส่วนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยคอยสแตนด์บายรอให้การสนับสนุน นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับกรุงเทพมหานครให้ตรวจเช็กกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณศาลฎีกาฯให้มีสภาพใช้การได้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดการกระทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ฝ่ายตำรวจซึ่งจะรับหน้าที่หลักดูแลสถานการณ์วันอ่านคำพิพากษาได้จัดเตรียมกำลังพลไว้ปฏิบัติหน้าที่ 4,000 นาย แบ่งเป็นตำรวจควบคุมฝูงชน 3,700 นาย ที่เหลือเป็นฝ่ายสืบสวนนอกเครื่องแบบที่จะปะปนอยู่ในฝูงชนและเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากกล้องวงจรปิดของกทม.แล้ว จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมโดยรอบอีกประมาณ 40 ตัวเพื่อเก็บภาพ ทั้งนี้ หากมีบุคคลบุกรุกพื้นที่หวงห้ามหรือยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายที่หน้าศาลจะเก็บหลักฐานให้ออกหมายเรียกดำเนินคดีในภายหลัง
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งเครื่องวอล์กทรู 3 เครื่อง รถควบคุมฝูงชน 20 คัน เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ รถพยาบาล 4 คัน อีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากการเตรียมความพร้อมของฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารตำรวจแสดงให้เห็นว่ามีความมั่นใจว่าจะมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีไม่มากไปกว่าที่ประเมินไว้
ส่วนอะไรที่ทำให้มีความมั่นใจก็คงจะพอทราบกันบ้างอยู่แล้วไม่ต้องสาธยายอะไรกันให้มาก
ข้างฝ่ายพรรคเพื่อไทยหลังจากที่ทำสงครามข่าวเรื่องการสกัดกั้นมวลชนของฝ่ายความมั่นคงมาพักใหญ่ดูเหมือนว่ากำลังปรับท่าทีใหม่ จากที่พยายามบอกว่ามีการสกัดกั้นมวลชนในรูปแบบต่างๆเพื่อไม่ให้เดินทางมาที่หน้าศาลฎีกาฯ ปรับมาเป็นแค่มีเจ้าหน้าที่รัฐออกไปแจ้งเตือนเรื่องความไม่ปลอดภัยเพราะเกรงว่าจะมีมือที่สามสวมรอยก่อเหตุความไม่สงบอาจทำให้ได้รับอันตรายได้
แม้การขอความร่วมมือในความหมายของฝ่ายความมั่นคงจะเป็นที่ทราบกันแต่ท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่ขึงขังแต่แรกเริ่มดูเบาลง
ส่วนอะไรทำให้เสียงเบาลงต้องไปถามคนในพรรคเพื่อไทย
สิ่งเดียวที่พรรคเพื่อไทยยังเสียงดังฟังชัดอยู่ในตอนนี้คือการยืนยันว่าทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ศาลฎีกาฯจะอ่านคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยทำให้เกิดความเสียหาย นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ศาลฎีกาฯนัดอ่านคำพิพากษาคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐในวันเดียวกันทั้งหมดจะเดินทางไปฟังศาลฎีกาฯอ่านคำพิพากษาตามนัดแน่นอน ไม่มีใครคิดหนี อย่างที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองพยายามปล่อยข่าว เพราะมั่นใจว่าศาลฎีกาฯจะให้ความยุติธรรม
นี่คือท่าทีล่าสุดของทั้งสองฝ่าย ส่วนจะสะท้อนอะไรหรือไม่คงต้องไปพิจารณากันเอง
You must be logged in to post a comment Login