วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กองทัพแตก?

On August 28, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การไม่ปรากฏตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนถูกศาลออกหมายจับ ริบเงินวางประกัน และนัดอ่านคำตัดสินใหม่ในวันที่ 27 กันยายน 2560

แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าเมื่อถึงวันนัดหมายอีกครั้งอดีตนายกฯจะเดินทางมาศาลฎีกาฯเพื่อรับฟังคำพิพากษาหรือไม่ แต่การไม่ปรากฏตัวเพื่อฟังคำตัดสินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลสะเทือนในหลายระดับ

1.กระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์เองที่ยืนหยัดต่อสู้คดีมาจนถึงวันแถลงปิดคดี แม้ผู้สนับสนุนจำนวนมากจะบอกว่ายอมรับได้ เข้าใจได้ แต่ลึกๆแล้วต่างผิดหวัง แม้จะรู้ว่าหากมาฟังคำตัดสินโอกาสจะสิ้นเสรีภาพของอดีตนายกฯมีสูง แต่การต่อสู้ทางคดีที่ผ่านมาการไปฟังสืบพยานที่ศาลทุกนัด ทำให้มวลชนสนับสนุนมั่นใจว่าจะสู้จนนาทีสุดท้าย แม้จะถูกตัดสินให้มีความผิดก็จะเดินเข้าคุกอย่างองอาจ

2.ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยอนาคตทางการเมืองของอดีตนายกฯถือว่าได้สิ้นสุดลงแล้ว ยิ่งถ้าวันที่ 27 กันยายนไม่มาศาล หรือมาแล้วศาลตัดสินให้มีความผิดก็ถือว่าปิดฉากทางการเมืองไม่มีโอกาสลงสมัครรับเลือกตั้งอีก

3.จากการโดนโค่นอำนาจด้วยการทำรัฐประหารและมีคดีความติดตัวตามมามากมายทั้งอดีตนายกฯผู้พี่อย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตนายกฯผู้น้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าจากนี้ไปจะไม่มีคนในตระกูลชินวัตรกล้าเข้ามาเล่นการเมืองอย่างเปิดเผย บางทีแม้แต่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังก็ไม่กล้า เพราะเข็ดหลาบกับสิ่งที่ถูกกระทำ ตระกูลชินวัตรอาจลาขาดพ้นจากเวทีการเมืองไปเลย

4. หากคนในตระกูลชินวัตรลาขาดจากการเมืองทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พรรคเพื่อไทยจะได้รับผลกระทบอย่างมาก อาจถึงขั้นอยู่ในสภาพพรรคแตก อดีตส.ส.จะไหลออกจากพรรคเพราะเมื่อพรรคขาดตระกูลชินวัตรสถานะของพรรคก็ไม่ต่างจากพรรคอื่นทั่วไปที่ไม่มีไรโดดเด่นที่จะดึงดูดให้อยู่กับพรรคต่อ

ที่สำคัญอดีตส.ส.เหล่านี้เห็นแล้วว่าหากยังเลือกยืนอยู่ข้างนี้ต่อไปความซวยจะมาเยือนเมื่อไหร่ก็ได้ เหมือนอย่างที่อดีตนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา ผู้ล่วงลับเคยเปรยไว้ตอนที่พรรคชาติไทยถูกยุบหลังไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนทำนองว่าเลือกข้างผิดชีวิตพัง เพราะบ้านเมืองทุกวันนี้ไม่ได้เอาชนะกันด้วยเหตุผล ชนะกันด้วยกติกา แต่ชนะกันด้วยอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งในและนอกรัฐธรรมนูญ หากยังเลือกยืนอยู่ข้างนี้ก็เหมือนถูกมัดมือชกรอวันตายอย่างเดียว อนาคตจะสดใสจึงต้อง “อยู่เป็น”

5.เมื่อดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยแพแตกออกไป แม้จะเหลือแกนนำที่ยังพอมีภาพลักษณ์ที่ดีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ใช้พรรคใหญ่ที่จะครองเสียงข้างมากในสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้อีกต่อไป เพราะเจอทั้งอุปสรรคข้อกฎหมาย และกำลังพลที่ลดน้อยลง ดีไม่ดีอาจมีบางกลุ่มแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโอกาสอันดีที่พรรคเพื่อไทยจะปรับกลยุทธ์สร้างพรรคใหม่ให้เป็นพรรคการเมืองคุณภาพที่มีอุดมการณ์แข็งกล้าเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง แต่กว่าจะตั้งหลักได้คงใช้เวลาอีกพักใหญ่

6. เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่จะทำให้รัฐบาลทหารคสช.สบายใจมากกว่ามาฟังคำตัดสินแล้วถูกสั่งให้จำคุก เพราะนั่นอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ จึงไม่แปลกที่มีแกนนำมวลชนฝ่ายตรงข้ามอดีตน.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมาพูดในทำนองว่ามีรายการรู้เห็นเป็นใจอำนวยความสะดวกให้เดินทาง

7.มวลชนที่ยึดติดตัวบุคคลมากกว่าหลักการจะเริ่มท้อแท้สิ้นหวัง ความเป็นกลุ่มก้อนจะลดน้อยลง พลังการขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆจะเบาบางลง

8.หลังจากนี้หากบรรดาแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แกนนำเพื่อไทยอีกหลายคนที่มีคดีติดตัวทั้งคดีเก่าคดีใหม่ถูกนำตัวไปเก็บในเรือนจำแบบเดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ มวลชนทั้งที่ภักดีต่อแกนนำ และมวลชนที่ยึดติดกับตระกูลชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทยจะแตกสลาย หมดพลังไปในที่สุด

นี่คือความน่าจะเป็นที่จะเกิดตามมาหลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจไม่ไปฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาฯ


You must be logged in to post a comment Login