- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
กินทีละคำ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
หลังนักวิเคราะห์การเมืองรวมทั้งสื่อในและต่างประเทศต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าการไม่ปรากฏตัวเพื่อรับฟังคำตัดสินคดีรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรายการเกี๊ยะเซียะเกิดขึ้นระหว่างอดีตนายกฯกับผู้คุมอำนาจในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือดตามมา หลังมีคำพิพากษา
เมื่อเห็นว่ากระแสข่าวนี้ทำให้เกิดความเสียหาย ทำลายความน่าเชื่อถือ ลดความเชื่อมั่นจากผู้สนับสนุน เมื่อตั้งหลักได้คนในฝ่ายคุมอำนาจต่างออกมาแก้ข่าวโดยยืนยันว่าไม่มีรายการเกี๊ยะเซียะ และออกท่าทีขึงขังในการติดตามตัวเพื่อมาฟังคำพิพากษา
การให้ข่าวล่าสุดจึงออกไปทำนองว่าไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะหนี วางแผนหนีได้อย่างเหนือชั้น และไม่พ้นลากโยงไปถึง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าเป็นคนวางแผนทุกขั้นตอนให้น้องสาวหลบหนีออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายฝ่ายแม้แต่พวกเดียวกันเองก็ยังคาใจ เพราะตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เป็นที่รับรู้กันว่าฝ่ายความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์แบบเกาะติดหายใจรดต้นคอ เดินทางไปไหนไม่มีคลาดสายตา มีคนตามถ่ายรูปรายงานให้นายทราบตลอดเวลา
จากที่มองว่าการไม่ปรากฏตัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ในประเทศ และทำให้รัฐบาลทหารคสช.คุมสภาพได้ง่ายขึ้น ล่าสุดเริ่มมีความวิตกกังวลว่าหากอดีตนายกฯไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทหารคสช.ค่อนข้างมาก
“บางคนบอกว่า คสช.เกี๊ยะเซียะให้หลบหนี ผมถามว่าจะเกิดประโยชน์อะไร เพราะทุกวันนี้ก็ถูกด่า ซึ่งนายกฯ ได้โทรศัพท์มาเร่งรัดผมทุกวัน เวลาเขาออกนอกประเทศไปแล้ว จะไปเปิดตัวเคลื่อนไหวต่างๆ อาจจะโจมตี พูดให้ร้าย คสช.ก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ แต่จะกลายเป็นปัญหาเพราะอยู่ในประเทศเราสามารถพูดคุยกันได้ ถ้าเขาผิดเราก็ดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ถ้าออกไปเคลื่อนไหวนอกประเทศจะเอากฎหมายอะไรไปบังคับใช้เขา เขาจึงมีสิทธิเสรีในการพูด จะพูดอะไรก็ได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าจะอยู่บนข้อเท็จจริงหรือไม่ และประชาชนจะยอมรับสิ่งที่เขาพูดหรือไม่”
เป็นคำกล่าวของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งแสดงให้เห็นความกังวลอยู่พอสมควร
เรื่องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าไปเคลื่อนไหวข้างนอกก็เป็นเรื่องที่กลุ่มอำนาจปัจจุบันต้องหาทางรับมือการเคลื่อนไหวต่อไป และการรับมือที่ดีที่สุดคือต้องมีอำนาจอยู่ในมือ แต่จะครองอำนาจแบบปัจจุบันต่อไปก็ไม่ได้
จึงไม่แปลกที่จะเห็นการกลืนน้ำลายตัวเองของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ที่ประกาศหลายครั้งช่วงนำม็อบเป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯว่าจะเลิกเล่นการเมืองออกมาประกาศว่าการตั้งพรรคการเมืองหากจำเป็นก็พร้อมจะทำเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพียงว่าตัวเองจะไม่ลงสมัครส.ส.
นี่คือการพลิกเกมครั้งสำคัญ เพราะหากปล่อยให้พรรคประชาชนปฏิรูปของ นายไพบูลย์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ลุยเดี่ยว แม้จะมี ส.ว.ที่จะแต่งตั้งเอาไว้รอเป็นทุนอยู่แล้ว 250 เสียง แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่อยู่แล้ว แม้ประเมินว่าพรรคเพื่อไทยอาจแตก แต่เพื่อไม่ประมาทก็ต้องส่งดาราระดับแม่เหล็กอย่างกำนันสุเทพ มาเรียกคะแนนเพื่อรับประกันความชัวร์ในการโหวตเลือกนายกฯหลังเลือกตั้ง
เข้าตำรากินทีละคำ เดินตามสเต็ปเพื่อดึงอำนาจไว้ในมือต่อไป
You must be logged in to post a comment Login