- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 14 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
โสมแดงป่วนต่อขู่ถล่ม‘กวม’
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/08/sanction3.jpg)
เกาหลีเหนือปรับกลยุทธ์ยั่วยุ ด้วยการยิงขีปนาวุธ “เฉียด” ญี่ปุ่น ทำให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต้องรีบออกมาปรามอีกครั้ง แต่คล้ายเสียงปรามจะไปไม่ถึงเกาหลีเหนือ เพราะโสมแดงประกาศเลือกเกาะกวม ที่ตั้งฐานทัพสหรัฐ เป็นเป้าหมายต่อไป
เกาหลีเหนือภายใต้บัญชาการของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุด ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางข้ามประเทศญี่ปุ่น ตกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกอีกฟาก รวมระยะทางกว่า 2,700 กิโลเมตร เมื่อเช้าวันอังคาร (29 ส.ค.)
สิ่งที่ตามมา คือการประณามและเรียกร้องให้โสมแดงหยุดการยั่วยุจากจีน สหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยเกาหลีใต้เสริมด้วยการ “ขู่กลับ” ซ้อมทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมาย จำลองเป็นการโจมตีที่พักของนายคิม จองอึน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสายหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่า ควรใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น ส่วนการเจรจาระบุว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
นอกจากหารือกับอาเบะ ทรัมป์ยังประณามการกระทำของโสมแดงทางทวิตเตอร์ แทรกด้วยคำขู่เดิมทำนองว่า “พร้อมใช้มาตรการทุกอย่าง รวมทั้งการใช้กำลังทหาร หยุดยั้งเกาหลีเหนือ”
ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประชุมฉุกเฉิน ตรงกับเวลาไทยเช้าวันพุธ (30 ส.ค.) ที่ผ่านมา และมีมติประณามเกาหลีเหนือที่ฝ่าฝืนข้อห้ามกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ความเคลื่อนไหวทั้งหมด ไม่สามารถ “ปรับทัศนคติ” ของเกาหลีเหนือได้ โดยโทรทัศน์ทางการโสมแดงถ่ายทอดแผนและคำยั่วยุของคิม จองอึนว่า การยิงขีปนาวุธข้ามประเทศญี่ปุ่น เป็นการซ้อมก่อนยิงสู่เกาะกวมในลำดับต่อไป
ร้อนถึงสหรัฐต้องเพิ่มมาตรการรับมือ ด้วยการซ้อมยิงสกัดขีปนาวุธที่เกาะกวม เพราะไม่ไว้ใจผู้นำโสมแดงว่า จะสั่งยิงเฉียดหรือยิงโจมตีโดยตรง
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เกาหลีเหนือออกมาอาละวาดด้วยวิธียั่วยุหวาดเสียวมากขึ้น เพราะเครียดจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้เศรษฐกิจซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม รวมทั้งเส้นทางรายได้จากต่างประเทศก็แทบปิดตาย
สำหรับแนวโน้มของสถานการณ์ในอนาคต ถ้าใช้การหารือระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำญี่ปุ่นครั้งล่าสุดเป็นตัวชี้วัด ชัดเจนว่าสหรัฐและพันธมิตร ไม่มีแผนเป็นฝ่ายลงมือก่อนในด้านการใช้กำลังทหาร
แต่ความชัดเจนดังกล่าวค่อนข้างเปราะบาง โดยขึ้นอยู่กับเกาหลีเหนือว่า จะฮึกเหิมล้ำเส้น จนกระทั่งผู้นำสหรัฐหมดความอดทนหรือไม่
You must be logged in to post a comment Login