วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จีนคุมเข้มแผนลงทุนนอก

On September 1, 2017

จากแนวโน้มภาวะขาดทุนของบริษัทจีน ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ยังไม่น่าไว้วางใจ ทำให้รัฐบาลออกกฎคุมเข้ม ป้องกันผลกระทบต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจภายในประเทศ

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยตัวเลข สร้างความตกตะลึงในวงกว้าง เมื่อไม่นานที่ผ่านมาว่า บริษัทจีนทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งลงทุนส่วนที่เกี่ยวโยงกับโครงเส้นทางสายไหมยุคใหม่ (Belt and Road) มีผลประกอบการขาดทุนมากถึง 65%

ผู้ประกอบการที่ขาดทุนหนัก ได้แก่ กลุ่มบริษัทที่ซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลในยุโรป กลุ่มซื้ออสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และบริษัทภาพยนตร์

เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายบานปลาย ทางการจีนได้กำหนดระเบียบการไปลงทุนในต่างแดนใหม่ โดยเข้มงวดและไม่ส่งเสริมให้ไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ธุรกิจภาพยนตร์ บันเทิง กีฬา และอุตสาหกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ส่วนธุรกิจที่ส่งเสริม ประกอบด้วยโครงการที่เกี่ยวโยงกับแผนพัฒนาเส้นทางสายไหมยุคใหม่ โครงการพัฒนาและวิจัยนวัตกรรม อุตสาหกรรมพลังงาน เหมืองแร่ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยี อุตสาหกรรมการเกษตร การประมง และอุตสาหกรรมโรงงาน

ทุกโครงการที่ใช้เงินลงทุนเกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,670 ล้านบาท) ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาล จึงจะดำเนินการได้  

นอกจากกำชับประเภทธุรกิจที่จะไปลงทุนแล้ว กระทรวงพาณิชย์จีน ร่วมกับสถาบันวิทยาการสังคม (ChineseAcademy of Social Sciences) และภาคเอกชนอีกจำนวนหนึ่ง ยังให้ข้อมูลผู้ประกอบการ โดยออก “คู่มือ” การจัดอันดับประเทศมีความเสี่ยงและประเทศน่าลงทุน 57 ชาติ

จำนวนดังกล่าว มีประเทศอยู่ในโครงการเส้นทางสายไหมยุคใหม่ 35 ชาติ และสิงคโปร์เป็นประเทศเดียวที่ได้คะแนนระดับน่าลงทุนสูงสุดคือ AA

อีกหนึ่งสำนักที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้ ได้แก่ ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ Minsheng Securities แห่งกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจการเงินและการลงทุนชั้นนำของจีน โดย Minsheng Securities ให้คะแนนสูงด้านความน่าลงทุนกับไทยและมาเลเซีย

เฉพาะประเทศไทย Minsheng Securities อธิบายว่า เป็นประเทศมีความเสี่ยงต่ำที่สุดร่วมกับมาเลเซีย อีกทั้งเศรษฐกิจของไทยมีเสถียรภาพ มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ดี และมีบรรยากาศเอื้อต่อการทำธุรกิจ

การ “ชี้เป้า” ของ Minsheng Securities ช่วยให้ไทยเป็นตัวเลือกในเกณฑ์ที่นักลงทุนจีนน่าจะมองในเชิงบวก


You must be logged in to post a comment Login