- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
โสมแดงเผชิญสงครามศก.
หลังทดลองขีปนาวุธติดต่อกันหลายครั้ง เกาหลีเหนือภายใต้บงการของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุด “เปลี่ยนอารมณ์” มาทดลองระเบิดนิวเคลียร์แทน เมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) ส่งผลให้เกิดกระแสวิตกกังวลในวงกว้างมากกว่าปฏิกิริยาที่มีต่อการทดลองขีปนาวุธ
อาวุธนิวเคลียร์ที่โสมแดงทดลอง ได้แก่ ระเบิดไฮโดรเจน (Hydrogen bomb or H-bomb) ทดลองเป็นครั้งที่ 6 ในอุโมงค์ใต้ดิน ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขนาด 6.3 คล้ายแผ่นดินไหวตามธรรมชาติ เป็นการทดลองที่เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
จากนั้น โทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า การทดลองประสบความสำเร็จ และโครงการเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือการพัฒนาระเบิดให้มีขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถนำไปติดตั้งกับขีปนาวุธข้ามทวีปได้
สถานบัน NORSAR เฝ้าระวังแผ่นดินไหวและทดลองอาวุธนิวเคลียร์ แห่งนอร์เวย์ ระบุว่า ระเบิดไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือ มีอานุภาพทำลายรุนแรงมากกว่า 8 เท่า หากเทียบกับระเบิดนิวเคลียร์ประเภทปรมาณู (Atomic bomb or A-bomb) ที่สหรัฐใช้โจมตีเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นระหว่างครามโลกครั้งที่ 2
ปฏิบัติการของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ถูกประณามจากหลายประเทศรวมทั้งจีน คล้ายกับหลังการทดลองขีปนาวุธ ขณะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ โพสต์ในทวิตเตอร์ประณามเกาหลีเหนือว่า “ประเทศอันธพาล”
นอกจากนั้น สหรัฐยังขู่อีกครั้งว่าอาจใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือ ส่วนเกาหลีใต้ซ้อมยิงขีปนาวุธจำลองสถานการณ์ เป็นการโจมตีฐานทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ระดับความตึงเครียดเขม็งเกลียวขึ้นอีกระดับ อย่างไรก็ตาม หากเกาหลีเหนือไม่ทำ “ปืนลั่น” หรือไม่ฮึกเหินถึงขั้นโจมตีสหรัฐและประเทศพันธมิตรของสหรัฐก่อน สงครามปะทะกันด้วยอาวุธและกำลังทหาร มีโอกาสเกิดขึ้นยาก
ในทางตรงกันข้าม “สงคราม” ทางเศรษฐกิจได้เกิดขึ้นแล้ว นับตั้งแต่สหรัฐและคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ
การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งนี้ ยิ่งทำให้มีแนวโน้มสูงที่สงครามทางเศรษฐกิจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐขู่จะยุติทำการค้าและธุรกิจโดยสิ้นเชิงกับบุคคล องค์กร และประเทศ ที่ทำการค้ากับเกาหลีเหนือ ขณะนายสตีฟ เอ็มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เสนอแผนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้ผู้นำสหรัฐพิจารณา เป้าหมายเพื่อโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือจากนานาชาติ
แน่นอนว่า ภาวะตึงเครียดมีความเสี่ยงระดับหนึ่งที่จะปะทุเป็นสงคราม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งผลกระทบจะเพิ่มระดับรุนแรงยิ่งขึ้น คือสงครามทางเศรษฐกิจ
You must be logged in to post a comment Login