- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
เปิดโผประเทศคู่ค้าโสมแดง

ปฏิกิริยาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ต่อกรณีเกาหลีเหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งล่าสุด ที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นเรื่องใหญ่ประเด็นหนึ่ง คือคำขู่ว่า “สหรัฐอาจยุติการค้าทั้งหมดกับทุกประเทศที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ”
“คำขู่” ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการเรียกร้องนานาชาติ ร่วมมือคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ เพื่อกดดันให้โสมแดงยุติโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือเป็นเป้าหมายหลัก ที่สหรัฐต้องการกดดัน แต่คำขู่ของผู้นำสหรัฐขยายวงกว้างครอบคลุมทุกประเทศที่เป็นคู่ค้ากับเกาหลีเหนือ ซึ่งหากทรัมป์ทำจริงตามคำพูด ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจระดับโลก รวมทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐเอง
สำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนแห่งเกาหลีใต้ (Korean Trade-Investment Promotion Agency) ระบุว่า ปัจจุบันมีประเทศทำการค้ากับเกาหลีเหนือประมาณ 80 ชาติ
ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ มีมูลค่าซื้อขายกับเกาหลีเหนือมากสุดในปีที่แล้ว (2016) 10 อันดับแรก ประกอบด้วย (1) จีน (2) รัสเซีย (3) อินเดีย (4) ไทย (5) ฟิลิปปินส์ (6) ปากีสถาน (7) ลักเซมเบิร์ก (8) สิงคโปร์ (9) ไต้หวัน และ (10) ศรีลังกา
อีก 3 ประเทศสำคัญ ที่อยู่ในทำเนียบ 80 ชาติ ประกอบด้วย เยอรมนี ฝรั่งเศส และโปรตุเกส
สำหรับจีนทำการซื้อขายสินค้ากับเกาหลีเหนือปีที่แล้วประมาณ 92.5% ของยอดส่งออกและนำเข้าทั้งหมดของเกาหลีเหนือ รวมมูลค่า 6,056 ล้านเหรียญสหรัฐ
จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของเกาหลีเหนือ ในขณะเดียวกันก็เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของสหรัฐด้วย โดยซื้อขายสินค้าระหว่างกันปีที่แล้ว มูลค่า 565,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากสหรัฐยุติการค้ากับจีนโดยสิ้นเชิง จะทำให้ชาวอเมริกันที่ทำงานเกี่ยวกับสินค้าส่งออกจีนตกงานเกือบ 1 ล้านคน
นอกจากนั้น จีนยังมีความสำคัญสูงต่อระบบการเงินของสหรัฐ เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่อันดับ 1 ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมวงเงินตรวจสอบถึงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มียอดรวมสูงถึง 1.15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
จากข้อมูลที่ระบุทั้งหมด ทำให้นักวิเคราะห์เสียงข้างมากเชื่อว่า ทรัมป์ไม่สามารถทำได้ตามคำขู่ เพราะหากดำเนินการจริง เป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศคู่ค้า ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐ ก็จะได้รับผลกระทบรุนแรงตามไปด้วย
ดังนั้น จึงมีข้อสงสัยว่า ทรัมป์เจตนาขู่จีนเพื่อให้ช่วยเพิ่มความกดดันเกาหลีเหนือ หรือมีมาตรการที่ยากจะคาดเดาแฝงอยู่ในคำขู่ดังกล่าว
You must be logged in to post a comment Login