วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หลบพระเอก!

On September 13, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

“ผมยืนยันว่าคนเดียวก็ไม่ให้แล้ว ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยแค่คนเดียว เพราะมันเป็นที่สาธารณะร่วมกัน ทำไมถึงไม่มีเอกสารขึ้นมา ก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด ตั้งแต่ระดับจังหวัดรวมถึงคณะกรรมการทั้งหมดได้รู้เรื่องนี้หรือไม่ และเมื่อตรวจสอบยืนยันได้ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วย ก็จะดำเนินการเพิกถอนคำสั่งทันที ในเมื่อประชาชนที่ใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อน ก็มีเหตุให้ยกเลิกคำสั่ง และต้องหาคนทำผิดให้ได้”

เป็นประโยคที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พลิกจากเกือบจะเป็นผู้ร้ายให้กลายมาเป็นพระเอกได้ในทันทีสำหรับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ที่พูดถึงการเซ็นอนุมัติให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลปเมนท์ จำกัด ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าชุมชนบ้านโคกห้วยเม็ก ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา เพื่อขยายเขตโรงงาน ทำเป็นที่เก็บน้ำ สำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม

ประเด็นที่ใครก็คาดว่าจะเป็นเผือกร้อนทำให้รัฐบาลมือพองซ้ำรอยเอาที่ ส.ป.ก.ไปแจกคนรวยเช่นในอดีต กลายเป็นก้อนน้ำแข็งในมือรัฐบาลถือเท่าไหร่ก็ไม่พอง แถมจะได้เครดิตเพิ่มเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้สนับสนุนได้อีกด้วย เมื่อ “บิ๊กป๊อก” ประกาศเอาผิดคนชงเรื่องขึ้นมาให้เซ็นอนุมัติ ที่ส่งมาเฉพาะเอกสารในส่วนที่บอกว่าคนในพื้นที่สนับสนุน ไม่ส่งเอกสารในส่วนที่ประชาชนไม่เห็นด้วยขึ้นมาให้พิจารณาพร้อมกัน

“เป็นเรื่องแปลกที่ว่าจังหวัดก็ไม่ได้ใหญ่โต แต่ทำไมคนที่ไม่เห็นด้วยนั้นมี แต่เอกสารที่ส่งขึ้นบอกว่าประชาชนเห็นด้วยเอกฉันท์ ขั้นตอนการส่งเอกสารขึ้นมาเป็นเรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย เอกสารร้องเรียนไม่มีขึ้นมา ส่วนการทำประชาพิจารณ์จะมีปัญหาหรือไม่ ยังไม่ทราบ จึงให้ผู้เกี่ยวข้องลงไปหาข้อเท็จจริง

การอนุมัติไปเป็นกฎหมาย เป็นคำสั่งทางปกครอง การยกเลิกต้องอยู่บนกฎหมาย เช่น ตรวจสอบแล้วมีคนได้รับผลกระทบ มีเอกสารยืนยัน แต่ผมไม่ทำถึง 90 วัน ผมสั่งไปภายใน 15 วันต้องเสร็จ ถ้าทราบว่ามีการใช้เอกสารที่ไม่ครบส่งขึ้นมาก็จะเพิกถอนเลย และจะดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งใช้อำนาจโดยมิชอบ เอาโทษทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวินัย อาญา ที่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะโทษทางวินัยโดนอยู่แล้ว ส่วนโทษทางอาญาถ้ามีหลักฐานว่าไปทำอะไรเกี่ยวกับเอกสารโดยมิชอบก็โดน นอกจากนี้ เรื่องของการทุจริตก็ต้องตรวจสอบด้วย”

เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่เรียกคะแนนได้เห็นๆ และเป็นคำสัมภาษณ์ที่ถือว่าจบเรื่องทุกอย่างไว้เพียงแค่นี้ ไม่ต้องคิดขยายความกันให้เป็นประเด็นทางการเมือง

จากคำให้สัมภาษณ์นี้จะเห็นได้ว่า “บิ๊กป๊อก” ลอยตัวจากเรื่องเอาป่าชุมชนไปให้เอกชนหาผลประโยชน์ทางธุรกิจได้แบบฟรีๆแล้ว สายตาที่เคยถูกมองอย่างสงสัยว่าจะมีนอกมีในอะไรหรือไม่ถึงเซ็นอนุมัติได้ เปลี่ยนเป็นสายตาชื่นชมในความตรงไปตรงมา

คนที่จะซวยคือข้าราชการที่ชงเรื่องขึ้นมาให้ลงนาม

ไล่ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มาจนถึงระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ที่ตอนนี้ไม่ว่าจะแถอย่างไรก็คงเอาตัวรอดจากการถูกเชือดบูชายัญเพื่อเพิ่มเครดิตให้รัฐบาลได้ยาก เพราะมีภาพปรากฏชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นป่าแห้งแล้งที่ชุมชนไม่ได้ใช้ประโยชน์ แม้จะไม่ได้เป็นป่าต้นน้ำอย่างที่ใช้เป็นเหตุผลกล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรนิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้ ต้องติดตามกันต่อไปว่าผลสอบที่ “บิ๊กป๊อก” สั่งว่าต้องเสร็จใน 15 วันนั้นจะออกมาอย่างไร หวยจะออกที่ใครบ้าง

ที่สำคัญคือต้องดูว่าเมื่อผลสอบออกมาแล้ว ผลของการอนุมัติให้เอกชนใช้ป่าชุมชนแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจแบบฟรีๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ ซึ่งผลหลังการตรวจสอบมีได้ 3 อย่างคือ ยืนยันให้เอกชนใช้พื้นที่ป่าชุมชนแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ต่อไป ยกเลิกการใช้พื้นที่บางส่วน และยกเลิกไม่ให้ใช้พื้นที่ทั้งหมด

เซ็นอนุมัติแล้วมีเสียงค้านก็เซ็นยกเลิกได้ จบแบบสวยๆ เหมือนหลายกรณีที่ผ่านมา “ความผิดสำเร็จแล้วตั้งแต่ลงนาม?”


You must be logged in to post a comment Login