วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ลดเสียง‘ยี้’

On September 14, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

รัฐบาลทหารคสช. ค่อยเคลียร์ตัวเองทีละเรื่อง เพื่อลดเสียงยี้ที่เริ่มดังขึ้นทุกวัน

เรื่องให้เอกชนเช่าพื้นที่ป่าชุมชนเพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจแค่ใช้ข้ออ้างว่าไม่รู้มาก่อนว่ามีประชาชนคัดค้าน พื้นที่ป่าไม่ได้เป็นป่าเสื่อมโทรม ก็ทำท่าจะจบลงแบบสวยๆ แต่จะจบสวยจริงหรือไม่ต้องรอดูเมื่อครบกำหนดอบ 15 วัน ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผลที่ลงนามอนุมัติไปแล้วหรือไม่ อย่างไร

น่าสนใจคือเรื่องนี้ไม่ได้ยินเสียงของกลุ่มคนที่ประกาศต่อต้านคอร์รัปชันและคนที่ประกาศตนเป็นนักอนุรักษ์พื้นที่ป่าที่ต่างสงวนท่าทีไม่แสดงความเห็นจึงเป็นผลให้เรื่องจะจบลงไปแบบเนียนๆได้ไม่ยาก ส่วนคดีความที่มีคนไปร้องให้องค์กรอิสระตรวจสอบคงไม่ต้องติดตามลุ้นให้เมื่อยตุ้ม

อีกเรื่องที่ดูเหมือนรัฐบาลจะเคลียร์ออกไปได้แล้วคือเรื่องการเอาข้าวเกรดคนบริโภคไปประมูลขายเป็นเกรดทำอาหารสัตว์ที่ทำให้รัฐเสียรายได้ที่ควรจะได้ไปมหาศาล

กรณีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ยืนยันผลตรวจซ้ำของคณะกรรมการที่ส่งไปตรวจตามโกดังที่เป็นข่าวผลตรวจยืนยันตามเดิมคือในโกงดังมีข้าวเสียเกินกว่า 20% ต้องนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

“ผมได้รับรายงานเป็นเอกสารแล้ว ไม่พบความผิดปรกติ จากนี้จะต้องไปติดตามต่อว่ามีการนำข้าวที่ระบาย เพื่อเป็นอาหารสัตว์ มาแปรรูปและจำหน่ายให้คนบริโภคหรือไม่ ยืนยัน รัฐบาลไม่ทำอะไรให้เสียหาย ไม่ได้ทำให้ข้าวดีเป็นข้าวเสีย และตีกลับมาขายใหม่ รัฐบาลไม่ทำแบบนี้”

ประโยคยืนยันจากนายกรัฐมนตรีที่ดูเหมือนว่าจะเคลียร์ข้อครหาไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สนับสนุนก็จะเลิกมองด้วยสายตาสงสัย

ส่วนคนที่ไม่สนับสนุนก็อาจจะยังมีคำถามว่านายกรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่กับกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวคณะกรรมการลงพื้นที่ไปถึงโกดังแล้วแค่เปิดโกดังดูด้วยสายตาแต่ไม่ได้เจาะข้าวในกระสอบมาพิสูจน์ว่าเป็นข่าวดีหรือข้าวเน่า ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้รายงานที่นายกฯได้รับไม่ตรงข้อเท็จจริงได้

อย่างไรก็ตาม นายกฯต้องยึดถือรายงานของลูกน้องที่ส่งไปตรวจสอบเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะเป็นรายงานที่จะช่วยเคลียร์ปมปัญหาเรื่องนี้ให้พ้นจากข้อครหาได้ เพราะหากไปลงลึกรายละเอียดมากเรื่องจะยาวและจะเกี่ยวข้องกับหลายคนหลายฝ่าย แม้จะมีมาตรา 44 คุ้มครองคนระบายข้าวแต่ไม่ดีแน่หากจะให้เรื่องนี้ถูกขยายผลไปในทางการเมือง

คำยืนยันว่าไม่ได้เอาข้าวดีไปขายทำอาหารสัตว์จึงเป็นการเคลียร์ตัวเองได้ดีที่สุด

อีกเรื่องที่เคลียร์ไม่ให้คาใจประชาชนคือกำหนดการเลือกตั้งที่นายกฯยืนยันว่ายังยึดตามโรดแม็พ ที่ทุกอย่างมีกรอบเวลาบังคับอยู่แล้ว โดยเฉพาะการทำกฎหมายลูกจึงไม่ควรวิตกกังวลต่อเรื่องนี้

“หลายคนกังวล จบเรื่องโน้นไปเรื่องนี้ ท้ายสุดมีปัญหาเรื่องของใครก็กลับมาหาผมทุกที ก็เป็นอย่างนี้เพราะมันต้องหาจำเลยสักคน ผมไม่ใช่จำเลยใครทั้งสิ้น เพราะยังไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนโรดแม็พเลย ใครจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะผมรู้แก่ใจตัวเอง”

แม้ไม่ยืนยันกำหนดเลือกตั้งที่แน่นอน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย้ำว่าเดินตามกรอบเวลาโรดแม็พ คนอื่นคิดอย่างไรไม่รู้ แต่รู้ตัวเองว่าคิดอะไร

ถึงจะเคลียร์ได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อว่าจะทำให้คำถามเรื่องเลื่อนเลือกตั้งน่าจะเบาไปได้ระยะหนึ่ง และจะเบาต่อไปเรื่อยๆ พร้อมเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นหากกฎหมายลูกที่สำคัญอีก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.ถูกยกร่างเสร็จและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาได้ตามกำหนด

ยิ่งถ้ากฎหมายสำคัญสองฉบับนี้ผ่านมติออกมาจากสนช.ยิ่งจะทำให้คำถามยื้อเลือกตั้งต่อเวลานั่งทับอำนาจหายไป

ทั้งเรื่องป่า เรื่องข้าว เรื่องเลือกตั้ง แม้จะเคลียร์ได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ถือว่าลดกระแสยี้ลงไปได้พอสมควร

นี่เป็นก้าวใหม่ของคสช.ที่ไม่ปล่อยให้เรื่องกระทบความมั่นคงของรัฐบาลไว้นาน มีประเด็นอะไรต้องรีบเคลียร์ตีกันฝ่ายตรงข้ามเอาไปขยายผล ส่วนจะเคลียร์ได้ชัดหมดจดหมดคำถาม หายข้อสงสัยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


You must be logged in to post a comment Login