กกต.ชุดใหม่?

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ข่าวเพื่อทราบคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมในสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิเมื่อปี 2551 ที่อัยการยื่นฟ้องแกนนำและพวกเป็นจำเลยรวม 98 คนศาลเลื่อนสืบพยานจากวันที่ 14 กันยายน 2560 ไปเป็นวันที่ 9 มีนาคม 2561 เนื่องจากมีจำเลย 1 รายป่วยเดินทางมาศาลไม่ได้ และศาลเห็นว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเพื่อความเป็นธรรมต้องสืบพยานต่อหน้าจำเลย

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมามีจำเลยเสียชีวิตไปแล้ว 1 รายทำให้ขณะนี้เหลือจำเลย 97 คน

ส่วนการเดินหน้าตามโรดแม็พสู่เลือกตั้ง ขณะนี้นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ไปแล้ว 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีมีเพียง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีผลบังคับใช้แล้วและต้องสรรหา คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ภายใน 90 วัน อีก 2 ฉบับรอการโปรดเกล้าฯ

เท่ากับว่า กกต.ชุดปัจจุบันเริ่มนับถอยหลังพ้นจากหน้าที่ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นหน้าที่ของกกต.ชุดใหม่ที่เข้ามารับไม้ต่อทำหน้าที่จัดและควบคุมการเลือกตั้ง ต้องจับตาดูว่าจะมีชื่อใครบ้างที่ผ่านการสรรหาเข้ามาเป็น กกต.ชุดใหม่

สำหรับ กกต.ชุดใหม่จะเพิ่มจำนวนจากเดิม 5 คน เป็น 7 คน โดยจะมาจากสองส่วนคือ คณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่สรรหา 5 คน อีก 2 คนมาจากมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เมื่อนับนิ้วตามกรอบเวลาที่กำหนดแล้วจะได้เห็นหน้าค่าตาว่าที่ กกต.ชุดใหม่ภายในวันที่ 12 ธันวาคมที่จะถึงนี้

ในส่วนของคณะกรรมการสรรหาจะมาโดยตำแหน่งประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานศาลปกครองสูงสุด และบุคคลที่องค์กรอิสระแต่งตั้งที่ไม่เคยดำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระมาก่อน แต่เนื่องจากปัจจุบันไม่มีประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จึงจะมาทำหน้าที่แทน

ส่วนคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกกต.นั้น ถูกกำหนดคุณสมบัติไว้ว่าต้องรับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่น้อยกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการ หรือตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือ ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์  หรือ เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองการประกอบวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 20 ปี หรือ เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ทางด้านการบริหารในระดับไม่ต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจำกัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือ เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งตามที่กล่าวมาข้างต้นรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือ เป็นผู้ทำงานหรือเคยทำงานในภาคประชาสังคมมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหลักเกณฑ์เป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนด

อย่างไรก็ตาม มีความน่าเป็นห่วงเล็กน้อยว่าการสรรหากกต.ชุดใหม่อาจไม่ราบรื่นเพราะ สนช.ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหามีอำนาจเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับบุคคลที่กรรมการสรรหาเสนอชื่อมาก็ได้ หากไม่เห็นชอบก็ต้องเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่ ที่สำคัญกฎหมายไม่ได้จำกัดจำนวนรอบการสรรหาใหม่สามารถทำได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้คนที่ สนช.ให้ความเห็นชอบ

เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติที่กำหนด และพิจารณาจากองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา และอำนาจของผู้ให้ความเห็นชอบ ก็คงพอเดารูปร่างหน้าตาของ กกต.ชุดใหม่ได้ว่าจะออกมาอย่างไร

เสียงวิจารณ์มีแน่นอน และจะถูกอธิบายว่าอย่ารีบตำหนิให้รอดูการทำหน้าที่ก่อน

แน่นอนว่า กกต.ชุดใหม่จะเป็นใครมาจากไหนไม่สำคัญ สำคัญที่การทำหน้าที่ต้องเป็นกลางเป็นธรรมเสมอภาคกับทุกฝ่าย เพราะหน้าที่ของกกต.คือคัดกรองคนดีให้เข้ามาสู่อำนาจไม่ใช่คัดกรองฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองไม่ให้เข้าสู่สภา

You must be logged in to post a comment Login