ปริศนาดาราสาวหายตัว / โดย ศิลป์ อิศเรศ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

ดาราสาวดาวรุ่งในวงการบันเทิงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่เวทีฮอลลีวู้ดเกิดหายตัวอย่างลึกลับ ตำรวจพบเงื่อนงำมากมายเชื่อมโยงทั้งดาราดังและสมาชิกแก๊งอันธพาล แต่สุดท้ายกลับนำไปสู่ทางตันกลายเป็นคดีปริศนาอีกคดีหนึ่ง

จีน สแปงเลอร์ เกิดที่เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 2 กันยายน 1923 ต่อมาในปี 1930 พ่อแม่ได้พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เธอได้สมรสกับเดกซ์เตอร์ เบนเนอร์ เมื่อปี 1942

ชีวิตสมรสไม่ราบรื่นนัก หลังจากแต่งงานได้เพียง 6 เดือน จีนพยายามฟ้องหย่าโดยกล่าวหาว่าเดกซ์เตอร์กระทำทารุณกรรม อย่างไรก็ตาม ต่อมาพวกเขาคืนดี กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งจนกระทั่งมีลูกสาวชื่อคริสตีน เกิดในปี 1944

ช่วงเวลานั้นเกิดเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 เดกซ์เตอร์ถูกเกณฑ์เป็นทหาร ระหว่างถูกส่งตัวไปสนามรบ จีนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทหารอากาศยศร้อยโท รู้แต่เพียงชื่อที่จีนเรียกเขาว่า “สก็อตตี้” ทั้งคู่เช่าอพาร์ตเมนต์อาศัยอยู่ด้วยกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ภายหลังปรากฏว่าสก็อตตี้เป็นคนโหดร้าย ตบตีจีนเป็นประจำ และขู่ว่าถ้าตีตัวออกห่างเขาจะฆ่าเธอ ด้วยความหวาดกลัวจีนจึงเลิกคบหากับสก็อตตี้และกลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่อเดกซ์เตอร์กลับบ้าน เขาจับได้ว่าจีนไม่ซื่อสัตย์จึงทำการฟ้องหย่าในปี 1946 และขอเป็นผู้เลี้ยงดูคริสตีนเพียงคนเดียว โดยอ้างกับศาลว่าจีนมีพฤติกรรมเสเพล

จีนจำเป็นต้องออกหางานทำ เธอสมัครเป็นนักเต้นระบำในโรงละครและได้รับบทตัวประกอบในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด อาชีพในวงการบันเทิงค่อนข้างจะไปได้ด้วยดี มีแววว่าเธอจะได้รับบทเด่นในภาพยนตร์เรื่องต่อไป

ศึกแย่งตัวลูกสาว

ปี 1948 จีนยื่นฟ้องร้องต่อศาลว่าเดกซ์เตอร์กีดกันไม่ให้เธอได้พบกับลูกสาว แถมขู่อาฆาตว่าหากยังมาตอแยอีกเขาจะหาวิธีไม่ให้เธอได้พบกับลูกสาวอีกเลยตลอดชีวิต เดกซ์เตอร์ให้การว่าจีนมีอาชีพเต้นกินรำกิน ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้เลี้ยงดูบุตร

ศาลพิจารณาแล้วลงความเห็นว่า มีผู้หญิงหลายคนที่ทำอาชีพเต้นกินรำกินและสามารถเลี้ยงดูบุตรได้ดีโดยไม่มีอะไรบกพร่อง ทั้งจีนและเดกซ์เตอร์มีความสามารถที่จะเลี้ยงดูลูกสาวได้ดีเท่าๆกัน จึงตัดสินให้จีนเป็นผู้ดูแลบุตรสาว และเดกซ์เตอร์สามารถอยู่กับลูกได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

จีนรับลูกสาวมาอยู่กับเธอในห้องเช่าที่เธออาศัยอยู่กับแม่ จนกระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม 1949 ฟลอเรนซ์ แม่ของจีน มีธุระต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่รัฐเคนทักกี เป็นจังหวะเดียวกับที่โซเฟียน้องสะใภ้เดินทางมาหา จีนจึงไหว้วานให้น้องสะใภ้ช่วยดูแลลูกสาวระหว่างที่เธอออกไปพบเดกซ์เตอร์เพื่อเจรจาเงินค่าเลี้ยงดูที่เขาไม่ได้ส่งให้หลายเดือนแล้ว

เวลา 17.00 น. จีนสวมกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ตและเสื้อคลุมสีขาวเดินทางออกจากห้องเช่า โดยบอกกับโซเฟียว่าจะไปหาเดกซ์เตอร์ หลังจากนั้นก็จะแวะไปที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ อาจจะกลับดึกสักหน่อย เวลาราว 19.00 น. จีนโทรศัพท์กลับมาที่บ้านเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและย้ำกับโซเฟียว่าคืนนี้เธอจะกลับดึก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ข่าวคราวจากจีน

หายตัวลึกลับ

จีนไม่ได้กลับมาบ้านในคืนนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นโซเฟียจึงแจ้งตำรวจ ตอนแรกตำรวจไม่ให้ความสำคัญเท่าไรนักเนื่องจาก จีนหายตัวไปยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง และในฮอลลีวู้ดมีคนหายตัวไป 2-3 วันบ่อยๆ อีกทั้งจีนเป็นคนในวงการบันเทิง ซึ่งคนกลุ่มนี้มักจะจัดปาร์ตี้จนลืมกลับบ้านบ่อยครั้ง จึงบอกให้โซเฟียไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวจีนก็กลับบ้านเอง

วันต่อมาตำรวจต้องเปลี่ยนความคิด เพราะมีคนพบกระเป๋าสะพายของจีนตกอยู่ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติกริฟฟิธ สายสะพายกระเป๋าข้างหนึ่งขาด สันนิษฐานว่าเธอถูกคนร้ายวิ่งราวกระเป๋า ภายในกระเป๋าไม่มีสิ่งของมีค่า ซึ่งโซเฟียยืนยันว่าจีนไม่ได้นำเงินติดตัวไปเพราะตอนนี้เธอกำลังถังแตก

ในกระเป๋าพบกระดาษโน้ตมีข้อความว่า “เคิร์ก ฉันรอไม่ไหวแล้ว กำลังจะไปพบหมอสก็อตต์ มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดขณะที่แม่ไม่อยู่บ้าน” ฟลอเรนซ์ให้การกับตำรวจว่า ผู้ชายชื่อเคิร์กเดินทางมารับจีนออกไปเที่ยว 2-3 ครั้ง แต่เธอไม่เคยเห็นหน้าเพราะเขาไม่เคยขึ้นมาที่ห้อง ทุกครั้งจะนั่งรอในรถให้จีนลงไปหา

ทันทีที่เป็นข่าวออกไป เคิร์ก ดักลาส ดาราภาพยนตร์ชื่อดังในสมัยนั้น เดินทางมาพบตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ จีนเคยรับบทตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่อง Young Man With A Horn ซึ่งเคิร์กรับบทดารานำฝ่ายชาย พวกเขาเคยพบกันเพียงแค่นั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

งมเข็มในมหาสมุทร

ตำรวจเชิญตัวแพทย์ทุกคนในลอสแอนเจลิสที่ชื่อสก็อตต์มาสอบปากคำ แต่แพทย์ทุกคนให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักจีน ผู้ต้องสงสัยรายต่อไปคือเดกซ์เตอร์ เขาปฏิเสธว่าจีนไม่ได้มาพบในวันเกิดเหตุ ลินน์ภรรยาใหม่ของเขาสามารถเป็นพยานยืนยันได้

คนขายของชำละแวกที่จีนอาศัยอยู่ให้การว่า เห็นจีนนั่งรอใครบางคนเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่เกิดเหตุ ตำรวจสืบสวนพบว่าจีนเคยมีความสัมพันธ์กับเดวิด โอกูล อันธพาลชื่อดังคนหนึ่ง ซึ่งเขาได้หายตัวไปเช่นเดียวกันหลังจากที่เกิดเหตุกับจีนได้เพียง 2 วัน เป็นไปได้ว่าจีนอาจหนีไปกับเดวิด หลังจากนั้นมาก็มีคนแจ้งข่าวว่าพบเห็นจีนกับเดวิดในสถานที่ต่างๆทั่วอเมริกา แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใช่จีนและเดวิดจริงหรือไม่

เจ้าหน้าที่โรงถ่ายภาพยนตร์ยืนยันว่าไม่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ในวันเกิดเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นโรงถ่ายภาพยนตร์ปิดในวันนั้นด้วยซ้ำไป ไม่มีใครบอกได้ว่าทำไมจีนจึงบอกกับโซเฟียว่าเธอติดถ่ายภาพยนตร์

ตำรวจสงสัยว่าจีนอาจกำลังตั้งครรภ์ เธอตัดสินใจไปทำแท้งกับหมอสก็อตต์ตามที่บอกเป็นนัยในกระดาษโน้ตที่พบในกระเป๋า เธอต้องปกปิดเรื่องนี้เพราะการทำแท้งในสมัยนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงข้อสันนิษฐานที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

ระหว่างที่ตำรวจทำการสืบสวนคดี คริสตีนถูกส่งตัวให้ไปอยู่กับเดกซ์เตอร์ โดยศาลสั่งให้เขาอนุญาตให้ฟลอเรนซ์ไปพบหลานสาวได้สัปดาห์ละครั้ง แต่เดกซ์เตอร์ก็ออกลายเหมือนเดิมโดยไม่ยอมให้ยายหลานได้พบกัน ฟลอเรนซ์นำเรื่องไปฟ้องร้องต่อศาล เดกซ์เตอร์จึงหอบครอบครัวหนี ย้ายไปอยู่ที่ฟลอริดาและไม่กลับแคลิฟอร์เนียอีกเลยตลอดชีวิต

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจีน เคิร์กและหมอสก็อตต์ที่เธอพูดถึงเป็นใคร ทำไมเธอต้องโกหกน้องสะใภ้ว่าจะไปเข้ากล้องทั้งๆที่วันนั้นไม่มีการถ่ายภาพยนตร์ ทำไมเธอจึงทอดทิ้งแม่และลูกสาวไปเฉยๆทั้งๆที่อาชีพในวงการบันเทิงของเธอกำลังไปได้ด้วยดี เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจีนยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้

You must be logged in to post a comment Login