วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

หลังคำพิพากษา

On September 28, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 5 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งการขายข้าวแบบจีทูจีที่ศาลฯตัดสินผู้เกี่ยวข้องให้มีความผิดฐานทุจริตไปแล้วก่อนหน้านี้มาเป็นเหตุชี้มูลความผิด จากนี้ไปจะมีความเคลื่อนไหวพร้อมกันสองด้าน ด้านหนึ่งคือฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องแทกแอ็คชั่นตามตัวอดีตนายกฯมาลงโทษ ทั้งเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและถอนพาสปอร์ต ด้านหนึ่งคือฝ่ายอดีตนายกฯที่จะต้องขับเคลื่อนตามสิทธิที่ทำได้เพื่อรักษาอิสรภาพของตัวเองไว้ต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลฯไม่ได้ชี้ว่าโครงการรับจำนำข้าวผิด จึงทำให้เกิดคำถามว่าคำสั่งทางปกครองให้ยึดทรัพย์ชดใช้ค่าเสียหายก่อนหน้านี้ยังจะมีความชอบธรรมอยู่หรือไม่

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้จำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้ความเกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเวลา 5 ปี โดยยกประเด็นเรื่องไม่ระงับยับยั้งการขายข้าวแบบจีทูจีที่ศาลฯตัดสินผู้เกี่ยวข้องให้มีความผิดฐานทุจริตไปแล้วก่อนหน้านี้มาเป็นเหตุชี้มูลความผิดอดีตนายกฯ

ในเอกสารแถลงข่าวของศาลฯ ระบุว่า จำเลยรับทราบสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสาหกิจจีนต่อไปอีก อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบด้วยกฎหมายการกระทำของจำเลย จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1

ทั้งนี้ เมื่ออดีตนายกฯไม่ได้เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาลฯ จึงมีการออกหมายจับให้นำตัวมารับโทษตามคำตัดสิน

ขั้นตอนต่อไปเมื่อมีคำพิพากษาออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือการสืบหาแหล่งที่อยู่ของอดีตนายกฯเพื่อทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะบอกว่ารู้ที่อยู่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว และเตรียมเปิดเผยหลังศาลฯมีคำตัดสิน แต่ล่าสุดก็บอกเพียงว่าอยู่ต่างประเทศ และไม่ได้บอกว่าอยู่ประเทศไหน

ในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อศาลฯมีคำตัดสินแล้ว มีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินได้ตามกฎหมายใหม่ แต่มีข้อแม้ว่าจำเลยต้องมายื่นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง เมื่อดูตามรูปการณ์แล้วคดีนี้จึงไม่น่าจะมีการยื่นอุทธรณ์

สำหรับแหล่งที่อยู่ของอดีตนายฯ แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่เปิดเผย แต่ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมชาย แสวงการ” มีเนื้อหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.60 โดยเข้าไปในกัมพูชาในช่วงค่ำ ก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวในเวลา 00.20 น. บินไปถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเช้า และขณะนี้ได้ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษเรียบร้อยแล้ว โดยใช้พาสปอร์ตเอกสิทธิเล่มแดงไปลอนดอน

ก่อนหน้านี้ หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษานัดแรก ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ถอนพาสปอร์ต แต่ตามขั้นตอนยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะคดีความยังไม่ถึงที่สุด

แต่เมื่อศาลฯมีคำตัดสินแล้ว ขั้นตอนการเพิกถอนพาสปอร์ตจะเริ่มเดินหน้าได้ทันที อย่างไรก็ตาม อาจต้องรอให้พ้นกำหนดยื่นอุทธรณ์ 30 วันไปก่อน เพราะหากอดีตนายกฯไม่มายื่นอุทธรณ์คดีก็เป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการ

เมื่อไม่มีพาสปอร์ตการเดินทางจะยากลำบากขึ้น ทำให้มีข่าวจากสื่อต่างประเทศรายงานก่อนหน้านี้ว่าอดีตนายกฯจะยื่นขอลี้ภัยทางการเมือง แม้จะมีกว่า 147 ประเทศที่เปิดรับผู้ลี้ภัยทางการเมือง แต่ข่าวว่าอดีตนายกฯเล็งเป้าไปที่ประเทศอังกฤษ

ทั้งนี้ อนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย พ.ศ. 2492 (Convention relating to the Status of Refugees) ให้คำนิยาม และความหมายของสถานภาพผู้ลี้ภัยว่า

ผู้ลี้ภัย หมายถึง บุคคลที่จำเป็นต้องทิ้งประเทศบ้านเกิดของตนเอง เนื่องจากความหวาดกลัวการถูกประหัตประหารหรือได้รับการคุกคามต่อชีวิตเนื่องจากสาเหตุข้อหนึ่งข้อใด เช่น เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ สมาชิกภาพในกลุ่มทางสังคม สมาชิกภาพในกลุ่มความคิดทางการเมือง

รัฐบาลทหารคสช.ยืนยันมาตลอดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง และมีการดำเนินคดีโดยศาล จึงมั่นใจว่าจะยื่นขอลี้ภัยไม่ได้

แม้ที่สุดแล้วไม่อาจยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย แต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตในต่างแดนได้เช่นเดียวกับกรณี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งโดนศาลฯตัดสินจำคุก 2 ปีจากคดีที่ดินรัชดา

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะเปิดตัวบอกถึงทิศทางที่จะเดินต่อไปในอนาคตเร็วๆนี้ โดยเป็นการพูดผ่านสื่อต่างประเทศสำนักหนึ่ง

แม้คำตัดสินของศาลฯจะมีผลทางกฎหมาย แต่ไม่มีผลทางจิตใจของคนไทย คนที่รักน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังรักเหมือนเดิม คนที่เกลียดก็ยังเกลียดเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือน่าจะมีคนกลางๆ เห็นใจอดีตนายกฯมากขึ้น เพราะจากคำตัดสินของศาลฯนั้น ชัดเจนว่าการทำโครงการรับจำนำข้าวไม่ผิด แต่ที่ผิดเพราะคนอื่นทุจริต โดยที่อดีตนายกฯไม่ได้ร่วมทุจริตด้วย

เมื่อโครงการรับจำนำข้าวไม่ผิด จึงทำให้เกิดคำถามว่าคำสั่งทางปกครองให้ยึดทรัพย์ชดใช้ค่าเสียหายก่อนหน้านี้ยังจะมีความชอบธรรมอยู่หรือไม่


You must be logged in to post a comment Login