ต่างคนต่างอยู่

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

คำถามเกี่ยวกับแหล่งที่อยู่และอนาคตของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความชัดเจนจากปากของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าตอนนี้อยู่ที่ดูไบ ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย แต่มีเงื่อนไขผู้อยู่อาศัยต้องไม่ใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งอดีตนายกฯรับปากทางดูไบจะไม่ยุ่งการเมือง แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะเล่นใหญ่เรื่องการไล่ล่าติดตามตัวมาลงโทษ แต่สัญญาณจากพี่ใหญ่ของคสช.จับใจความได้ว่าอยากให้จบแบบ “ต่างคนต่างอยู่” ส่วนกรณีคำตัดสินของศาลฎีกาฯ เริ่มมีคนตั้งคำถามว่าประเด็นระบายข้าวแบบจีทูจีที่ใช้ชี้มูลความผิดเป็นข้อกล่าวหาที่อยู่ในสำนวนของป.ป.ช.ตั้งแต่ต้นหรือไม่

หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 5 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้ความเกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวก็มีความเคลื่อนไหวตามมาอย่างมากมาย

ความเคลื่อนไหวแรกเป็นการเทกแอ็คชั่นของฝ่ายตำรวจ ที่ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักของอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการตรวจค้นเพื่อหาข้อมูลเชื่อมโยงเอาผิดกับคนที่พาอดีตนายกฯหลบหนี ไม่ใช่การค้นเพื่อติดตามหาตัว เพราะรู้ดีว่าอดีตนายกฯไม่อยู่ในไทยแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่สองเป็นการเทกแอ็คชั่นของกระทรวงการต่างประเทศในการเพิกถอนพาสปอร์ตของอดีตนายกฯ ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่รัฐ

แต่เรื่องที่น่าสนใจมากกว่าการค้นบ้านพักและการถอนพาสปอร์ตคือการให้สัมภาษณ์ของพี่ใหญ่อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พูดชัดเจนว่าขณะนี้อดีตนายกฯอยู่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งประเทศนี้ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย แต่จากการประสานทราบว่ามีนโยบายไม่ยุ่งการเมืองไทย คนที่ไปพักอาศัยต้องไม่ใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งอดีตนายกฯได้รับปากว่าจะไม่ยุ่งการเมือง ส่วนจะเชื่อใจได้หรือไม่ต้องรอดู

ประเด็นที่ “บิ๊กป้อม” ต้องการสื่อคืออยากให้เรื่องจบ คนหนีไปแล้วตามตัวก็ไม่ได้ และรับปากจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนใครมีหน้าที่จะเทกแอ็คชั่นอย่างไร ก็ว่ากันไปตามบทบาทของแต่ละคน

นอกจากประเด็นเรื่องการติดตามตัวแล้ว ยังมีประเด็นความคิดเห็นทางข้อกฎหมายต่อคำพิพากษาน่าสนใจออกมาจาก นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ตั้งประเด็นว่าคำพิพากษาของศาลอาจมีปัญหาหรือไม่ เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลและให้อัยการสูงสุดฟ้องในข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว แต่คำพิพากษาที่ออกมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า กระบวนการที่นำไปสู่การลงโทษอดีตนายกฯเป็นเรื่องของการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี

“คำฟ้องที่สังคมเข้าใจในเวลานี้ คือคำฟ้องระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว โดยปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย ไม่ใช่ประเด็นการระบายข้าว ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ศาลให้น้ำหนักจนนำมาสู่การลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ทีมทนายความของอดีตนายกฯต้องไปดูคำฟ้องให้ละเอียดอีกครั้งว่าป.ป.ช.กล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในประเด็นใด และมีเรื่องของการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐในคำฟ้องตั้งแต่ต้นหรือไม่ หากไม่มีประเด็นนี้ตั้งแต่ต้น คำพิพากษาที่ออกมาอาจมีปัญหาในข้อกฎหมาย เพราะหลักการของการฟ้องคือต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อจำเลยอย่างชัดแจ้งครบถ้วนเพื่อเปิดโอกาสให้โต้แย้งได้”

ความเห็นของนายชัยเกษม ถือว่าน่าสนใจ เพราะอาจเป็นช่องทางให้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลได้ อย่างไรก็ตาม ยังติดเงื่อนไขที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องมายื่นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง

ตบท้ายความเคลื่อนไหวของเรื่องนี้ด้วยคำยืนยันจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมือกฎหมายของรัฐบาลทหารคสช.ที่ย้ำหนักแน่นว่าการยึดทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ตามคำสั่งทางปกครองจะเดินหน้าต่อไป แม้ศาลฎีกาฯจะตัดสินว่าการทำโครงการจำนำข้าวขาดทุนไม่ผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะถือเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม การยึดทรัพย์ต้องรอฟังคำสั่งศาลปกครองที่อดีตนายกฯไปยื่นฟ้องค้านคำสั่งยึดทรัพย์ไว้ พร้อมชี้ว่าคำตัดสินของศาลฎีกาฯไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีของศาลปกครอง เพราะเป็นคนละส่วนกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ แม้ “บิ๊กป้อม” จะบอกว่าอยู่ดูไบ แต่สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานว่าขณะนี้อดีตนายกฯอยู่ประเทศอังกฤษมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับความคืบหน้าเรื่องหาถิ่นที่อยู่ถาวร มีอดีตส.ส.บางคนบอกว่าเป้าหมายขอลี้ภัยอาจไม่ได้อยู่ที่อังกฤษ แต่เป็นเยอรมนี

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องอดีตนายกฯคงมีมาอีกเรื่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นในที่สุด ทั้งเรื่องขอลี้ภัย และเรื่องอนาคตทางการเมือง

You must be logged in to post a comment Login