วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โคลอมเบียพักรบรอบ50ปี

On October 3, 2017

โคลอมเบียเป็นประเทศหนึ่งที่มีกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลมายาวนาน โดยความขัดแย้งที่เกิดความรุนแรงบ่อยครั้ง ทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ

ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกลุ่มใหญ่ที่สุด ได้แก่ กองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย (Revolutionary Armed Forces of Colombia) มีชื่อย่อภาษาสเปนว่ากลุ่ม “ฟาร์ซ” (FARC) ต่อสู้กับรัฐบาลด้วยเป้าหมายแบ่งแยกดินแดน

กลุ่มใหญ่อันดับ 2 ได้แก่ กองทัพสร้างเสรีภาพแห่งชาติ (National Liberation Army : ELN) นิยมลัทธิมาร์กซ์

ทั้ง 2 กลุ่มมีความเข้มแข็งทั้งด้านกำลังพลและอาวุธ ยืนหยัดต่อสู้และก่อกวนรัฐบาลด้วยวิธีต่างๆ มานาน 53 ปี มีผู้เสียชีวิตกว่า 220,000 ราย และต้องย้ายถิ่นฐานหนีความรุนแรงเกือบ 6 ล้านคน

รัฐบาลโคลอมเบียพยายามเจรจายุติความขัดแย้งกับ 2 กลุ่มมานาน แต่ไร้ผล จนกระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว กลุ่มฟาร์ซจึงยอมตกลงเซ็นสัญญาสันติภาพ ที่ประเทศคิวบา หลังเจรจากันนาน 4 ปี

การบรรลุข้อตกลงดังกล่าว เป็นผลงานสำคัญที่ช่วยให้ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลอมเบีย ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ (Nobel Peace Prize) ประจำปีล่าสุด (2016)

จากนั้น รัฐบาลโคลอมเบียนำโดยประธานาธิบดีซานโตส ได้เปิดเจรจากับกลุ่มอีแอลเอ็น (ELN) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประเทศเอกวาดอร์

ฝ่ายรัฐบาลเคยเจรจากับอีแอลเอ็นมาแล้ว 2 ครั้ง และล้มเหลวทั้งหมด แต่ครั้งนี้สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ หลังเจรจาต่อรองกันนาน 8 เดือน โดยอีแอลเอ็นยอมเซ็นสัญญาสงบศึกชั่วคราว 3 เดือน ระหว่าง 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ถึง 9 ม.ค.ปีหน้า

สัญญามีเงื่อนไขสำคัญคือ กลุ่มอีแอลเอ็นจะยุติการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ หยุดทำลายทรัพย์สินของรัฐบาล หยุดวางกับระเบิด และหยุดเกณฑ์เยาวชนมาเป็นนักรบ

ส่วนรัฐบาลจะดูแลสภาพความเป็นอยู่ ของสมาชิกอีแอลเอ็นในเรือนจำประมาณ 450 คน ให้ดีกว่าเดิม และปกป้องชุมชนแกนนำอีแอลเอ็นให้ปลอดภัย

หากสถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยฝ่ายอีแอลเอ็นไม่ละเมิดข้อตกลง ทั้ง 2 ฝ่ายมีแผนขยายสัญญาสันติภาพรอบ 2 เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในที่สุด

การยอมยุติก่อความรุนแรงของกลุ่มติดอาวุธสำคัญ 2 กลุ่ม ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของโคลอมเบีย

แม้สัญญากับกลุ่มอีแอลเอ็นจะเป็นข้อตกลงชั่วคราว แต่เป็นการเริ่มต้น ที่มีแนวโน้มจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา


You must be logged in to post a comment Login