วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ปริศนากราดยิงที่ลาสเวกัส

On October 3, 2017

หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ มือปืนกราดยิงฝูงชนเข้าชมคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ มีคำถามหนึ่งที่หลายคนอยากรู้คือ “ทำไมมือปืนจึงลงมือก่อเหตุ”

เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการกราดยิงฝูงชนครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐยุคใหม่ มือปืนเป็นอดีตพนักงานบัญชีหน่วยงานรัฐวัยเกษียณชื่อสตีเฟ่น แพ็ดด็อก อายุ 64 ปี ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว

โดยกราดยิงปืนยาวอัตโนมัติจากห้องบนชั้น 32 ของโรงแรมแมนดาลีย์เบย์ (Mandalay Bay Resort and Casino) ลงมาใส่ฝูงชนกว่า 22,000 คน ที่ชมคอนเสิร์ตเทศกาลดนตรีคันทรี บนลานกลางแจ้ง ซึ่งอยู่อีกฟากของถนน ห่างจากโรงแรมประมาณ 300 เมตร

มือปืนลงมือกราดยิงประมาณ 4 ทุ่ม ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาไทยวันจันทร์ (2 ต.ค.) ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 ราย บาดเจ็บกว่า 527 ราย

หลังก่อเหตุ คนร้ายฆ่าตัวตายในห้องของโรงแรม ตำรวจเข้าตรวจค้นห้องใช้ก่อเหตุพบปืน 23 กระบอก และไปพบที่บ้านพักของคนร้ายอีก 19 กระบอก

มือปืนเป็นนักเล่นพนัน เคยแต่งงานแต่ไม่มีบุตร ไม่มีประวัติอาชญากรรม เป็นคนไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน พบข้อมูลส่วนหนึ่งที่คาดว่า อาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตระดับหนึ่ง

ด้านอีริก แพ็ดด็อก พี่น้องของมือปืน ยืนยันว่ามือปืนเป็นคนใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป ไม่เคยเกี่ยวข้องกับความรุนแรง

จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่เป็นแรงจูงใจของคนร้าย และยังไม่ตัดทิ้งประเด็นต้องสงสัยต่าง ๆ รวมทั้งการก่อการร้าย แม้มือปืนไม่มีประวัติเคยติดต่อกับกลุ่มก่อการร้าย และกลุ่มหัวรุนแรงในต่างประเทศมาก่อนก็ตาม

บุคคลสำคัญคนหนึ่ง ที่ตำรวจติดตามตัวมาไขปริศนาชื่อเมริโล แดนลีย์ แฟนของมือปืน ซึ่งเดินทางไปต่างประเทศขณะเกิดเหตุ

ด้านนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ พรรคเดโมแครต มองว่าการอนุญาตให้ประชาชนซื้อและครอบครองอาวุธปืนที่ค่อนข้างเสรี เป็นต้นเหตุสำคัญส่วนหนึ่ง

คลินตันเสนอแนะประชาชนผ่านทวิตเตอร์ ให้รวมพลังกันเรียกร้องรัฐบาลกลาง และรัฐบาลแต่ละรัฐ แก้กฎหมายเพิ่มความเข้มงวดการซื้อและครอบครองอาวุธปืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญลักษณะนี้อีกในอนาคต

คลินตันมองไปที่ความบ้าระห่ำส่วนบุคคลที่มีปืนในมือ ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน ยังไม่ชี้ชัดสาเหตุ แต่เชื่อในเบื้องต้นว่า ไม่เกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้าย 


You must be logged in to post a comment Login