วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ท่องจักรวาล / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On October 9, 2017

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

วิศวกรหนุ่มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งข้อความปริศนาบอกว่าเขาออกเดินทางท่องจักรวาลไปบนยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว

พายุที่โหมกระหน่ำเกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อคืนวันที่ 29 พฤศจิกายน 1980 ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั่วทั้งเกาะ ช่วงเวลาเดียวกันนี้เองชายหนุ่มคนหนึ่งเขียนข้อความอำลาครอบครัวก่อนจะขับรถกระบะออกจากบ้านและไม่มีใครได้พบเห็นเขาอีกเลยตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา

“คุณพ่อและคุณแม่ที่รัก ผมเดินทางไปขึ้นยานอวกาศเพื่อท่องจักรวาลเป็นเวลา 42 เดือนแล้วจะกลับมา ผมทิ้งทรัพย์สมบัติส่วนตัวไว้ที่บ้านเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ กรุณาดูพินัยกรรมว่าจะจัดการกับทรัพย์สมบัติของผมอย่างไร, รัก แกรงเกอร์”

ด้านหลังของกระดาษที่เขียนข้อความเป็นแผนที่ภูเขาวอเตอร์ลู ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านแกรงเกอร์ราว 20 ไมล์ ไม่มีใครรู้ว่าแผนที่นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของเขาหรือไม่

อัจฉริยะแหกคอก

แกรงเกอร์ เทเลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 1948 ครอบครัวอาศัยอยู่ในเมืองดันแคน บนเกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เขามีความรู้ความสามารถทางด้านเครื่องยนต์ทั้งๆที่ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางนี้ ทำให้เพื่อนๆเรียกเขาว่าเป็นอัจฉริยะแหกคอก

แกรงเกอร์อาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง จบการศึกษาเพียงแค่เกรด 8 ก่อนจะลาออกจากโรงเรียนหันมาศึกษาทางด้านเครื่องยนต์ด้วยตนเองโดยทำงานเป็นลูกมือช่างเครื่องยนต์ เรียนรู้งานเพียงปีเดียวเท่านั้นแกรงเกอร์ก็เก่งกาจถึงขนาดแยกตัวออกมาเปิดร้านรับซ่อมเครื่องยนต์ของตัวเอง

แกรงเกอร์สามารถประกอบเครื่องยนต์ยานพาหนะแบบสูบเดียวได้ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 14 ปี และสามารถประกอบรถปราบดินได้ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี เมื่ออายุได้ 21 ปี แกรงเกอร์บุกเข้าไปในป่าลึกเพื่อนำรถจักรไอน้ำที่ถูกทิ้งไว้ในป่ารกชัฏตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นำกลับมาที่บ้าน

เขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปี ทำการชุบชีวิตหัวรถจักรไอน้ำ ซึ่งต่อมาในปี 1973 เทศบาลบริติชโคลัมเบียได้ขอซื้อเพื่อนำมาตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์รถไฟ แต่ความสนใจของแกรงเกอร์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขานำเงินที่ได้ไปซื้อซากเครื่องบินรบรุ่นคิตตี้ฮอว์คนำมาซ่อมแซมจนเหมือนเป็นของใหม่ มันถูกนำมาตั้งโชว์ที่หน้าร้านก่อนที่จะถูกนักสะสมเครื่องบินโบราณขอซื้อไป

สร้างจานบิน

จากเครื่องยนต์รถปราบดินมาสู่หัวรถจักรไอน้ำจนกระทั่งถึงเครื่องบินยังไม่สามารถเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของแกรงเกอร์ได้ เขาเฝ้าถามตัวเองว่า “จานบิน” บินได้อย่างไร? แกรงเกอร์ลงทุนสร้างแบบจำลองจานบินตามคำบอกเล่าของผู้ที่อ้างว่าเคยเห็นจานบิน

ราวปลายทศวรรษ 1970 แกรงเกอร์สร้างแบบจำลองจานบินด้วยอุปกรณ์พื้นๆ เช่น จานดาวเทียม โทรทัศน์ เก้าอี้นอน และเตาเผาฟืน แต่สิ่งที่ยังไม่มีคือเครื่องยนต์ ทุกๆวันแกรงเกอร์จะเข้ามานั่งในแบบจำลองจานบินครุ่นคิดว่ามันบินได้อย่างไร

แกรงเกอร์ขวนขวายหาหนังสือที่เกี่ยวกับจานบินมาอ่านเพื่อหาข้อมูลวิธีการลอยตัวของจานบินจากพยานที่อ้างว่าเคยพบเห็นจานบิน แต่ข้อมูลที่ได้นั้นยังไม่เพียงพอ แกรงเกอร์จึงสมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมยูเอฟโอเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

แกรงเกอร์ใช้เวลาส่วนใหญ่ครุ่นคิดว่าจานบินสามารถบินได้อย่างไร จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับการติดต่อทางโทรจิตจากมนุษย์ต่างดาวเชิญชวนให้เดินทางทัวร์ระบบสุริยจักรวาล หากสนใจให้เดินทางไปยังจุดนัดพบแล้วจะส่งจานบินมารับ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามแกรงเกอร์บอกใคร

หายไปกับพายุ

ค่ำวันที่ 28 พฤศจิกายน แกรงเกอร์เดินไปหาพ่อเลี้ยงในห้องนอน กล่าวขอบคุณที่ดูแลเขามาอย่างดีตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายที่คืนนั้นแม่ของเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน เนื่องจากเธอเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะฮาวาย แกรงเกอร์ได้เขียนพินัยกรรมไว้ 2 ฉบับ ที่น่าสนใจคือเขาขีดฆ่าคำว่า “เสียชีวิต” ออก แก้ไขเป็น “ออกเดินทาง”

เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน แกรงเกอร์เดินทางไปยังร้านอาหารบ๊อบส์กริล หลังจากรับประทานอาหารค่ำเรียบร้อยก็ออกจากร้านไปเมื่อเวลา 18.30 น. และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นแกรงเกอร์

หลังจากพบจดหมายลาของแกรงเกอร์ พ่อเลี้ยงได้แจ้งความให้ตำรวจนำกำลังออกค้นหา แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ ที่น่าประหลาดใจคือไม่พบแม้แต่รถกระบะที่แกรงเกอร์ใช้เป็นยานพาหนะ จนกระทั่งอีก 6 ปีต่อมาจึงมีผู้พบซากรถกระบะถูกทิ้งอยู่บนภูเขาซิกเกอร์ มีร่องรอยการระเบิดเป็นหลุมใหญ่ ดูเหมือนว่าแกรงเกอร์จะบรรทุกวัตถุระเบิดมาด้วยในคืนเกิดเหตุและเกิดการระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีร่องรอยของแกรงเกอร์ในที่เกิดเหตุ

วันที่ 29 พฤษภาคม 1984 เป็นวันครบรอบ 42 เดือนที่แกรงเกอร์สัญญาว่าจะกลับบ้าน พ่อเลี้ยงได้เปิดประตูทิ้งไว้ทั้งคืนเพื่อรอการกลับมา แต่แล้วเขาก็ไม่ได้กลับมาตามที่สัญญา และไม่มีเงื่อนงำแม้แต่น้อยว่าเขาหายตัวไปอยู่ที่ไหน

จัดฉาก

โจน เมเยอร์ น้องสาวของแกรงเกอร์ เชื่อว่าเป็นเพราะแกรงเกอร์รู้สึกเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง เขาแตกต่างจากคนทั่วไป เขามีความคิดเป็นของตัวเอง นั่นอาจเป็นเหตุผลทำให้แกรงเกอร์หนีออกจากบ้านแล้วหายตัวไปเฉยๆ ตอนเด็กๆแกรงเกอร์เป็นคนร่างเล็กจึงมักถูกเพื่อนๆกลั่นแกล้ง แม้ว่าเมื่อเติบใหญ่เขาจะมีรูปร่างสูงใหญ่แต่ประสบการณ์ในวัยเด็กอาจยังฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก

เกรซ แอน ยัง น้องสาวแกรงเกอร์อีกคนหนึ่ง เล่าว่า ก่อนที่แกรงเกอร์จะสร้างแบบจำลองจานบิน เขาเคยบอกกับเธอว่าหากเขาอยากจะหายหน้าไปจากสังคมก็ทำแค่ไว้หนวด ไว้เครา หลังจากนั้นย้ายไปอยู่ที่ประเทศอื่น เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าเขาเป็นใครมาจากไหน

แกรงเกอร์มักจะบรรทุกดินระเบิดไว้บนรถกระบะเสมอๆ เขาใช้ดินระเบิดทำลายต้นไม้ที่กีดขวางเพื่อกรุยทางเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นวิธีทั่วไปที่คนในยุคสมัยนั้นทำกัน และเขาอาจใช้ดินระเบิดนี้ในคืนเกิดเหตุเพื่อสร้างฉากว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วจะได้ไม่มีใครออกตามหา

แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมแกรงเกอร์ต้องจัดฉากมากมายขนาดนั้น หากเขาไม่อยากอยู่บ้านก็แค่ย้ายออกจากพื้นที่ไปเฉยๆก็ได้ การหายตัวไปของแกรงเกอร์ยังคงเป็นปริศนา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร หรือว่าได้เดินทางท่องจักรวาลไปกับมนุษย์ต่างดาวอย่างที่เขียนบอกไว้ในจดหมายลาจริง


You must be logged in to post a comment Login