วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กุญแจดอกเดียว

On October 12, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ทั้งในทำนองเชื่อถือและไม่เชื่อถือในสิ่งที่ “ท่านผู้นำ” ประกาศออกมาว่าจะให้มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆแล้วดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญที่จะทำให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดหรือไม่มีเพียงดอกเดียวเท่านั้นคือ “กฎหมายลูก” หากไม่มีอุบัติเหตุให้กฎหมายถูกคว่ำคาสภา เหตุผลข้ออ้างอื่น แม้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันไม่มีความกดดัน และเชื่อว่าจะทำงานร่างกฎหมายลูกได้ทันตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน หากคิดจะเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกดูจะไม่มีน้ำหนัก

โบราณว่า “หัวไม่ส่าย หางไม่ขยับ” พลันเมื่อ “หัวขยับ หางก็กระดิกกันระริก”

หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศความชัดเจนเรื่องกำหนดคืนอำนาจให้ประชาชนจัดเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า องคาพยพที่เป็นแม่น้ำสายต่างๆก็ออกมาขานรับกันเซ็งแซ่

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ออกอาการไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำงานในความรับผิดชอบของตัวเองเสร็จทันตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญให้ไว้หรือไม่ ทำให้กำหนดเลือกตั้งไม่มีความแน่นอน

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันไม่มีความกดดันหลังนายกฯประกาศเวลาเลือกตั้งที่ชัดเจน

“ไม่มีความกดดัน เชื่อว่าจะทำงานร่างกฎหมายลูกได้ทันตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่าอีกไม่นานผมคงได้คุยกับนายกฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในการประชุม คสช.เพื่อจะได้เข้าใจในเรื่องของกรอบเวลาตรงกัน ขอเรียนว่าอย่าเพิ่งไปห่วงอะไรเลย โดยเฉพาะกรณีว่าร่างกฎหมายจะถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คว่ำหรือไม่ เพราะเหมือนกับว่าเรากำลังจะเดินทางไปแต่งงาน แต่กลับกลัวรถคว่ำเสียอย่างนั้น”

เช่นเดียวกับ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่ 1 ยืนยันเหมือนกันว่า กระบวนการจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งจะเป็นการทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญให้เสร็จทั้ง 10 ฉบับ ไม่ใช่เพียงแค่ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพียง 4 ฉบับเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายคุมอำนาจจะเริ่มร้องเล่นเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน แต่ก็ยังมีหลายคนไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ในเดือนพฤศจิกายนปีหน้าอย่างที่นายกฯประกาศไว้

นายจาตุรนต์ ฉายแสง  แกนนำพรรคเพื่อไทย ชี้ว่าที่ผ่านมาเรามีบทเรียนหลายครั้งเวลานายกฯไปต่างประเทศก็จะบอกกับผู้นำชาติต่างๆ หรือแม้แต่เลขาธิการสหประชาชาติว่าจะมีการเลือกตั้งปีนั้นปีนี้แต่ก็เลื่อนมาตลอด

“ครั้งนี้จึงยังไม่มีหลักประกันอะไร ถ้าทำกฎหมายลูกไม่เสร็จหรือตั้งใจทำให้ไม่เสร็จ ก็ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นง่ายนิดเดียว การประกาศกำหนดการเลือกตั้งทำให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งมากครั้งที่สุดเท่าที่เคยมีมา”

ไม่เพียงนักการเมืองที่มองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหารคสช.ที่ไม่เชื่อ แม้แต่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ก็ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามที่นายกฯประกาศไว้

“ผมไม่ได้ให้ความเชื่อถือเนื่องจากไม่มีหลักประกันใดๆที่แน่ชัดว่ารัฐบาลและ คสช. จะดำเนินการตามที่ประกาศ เนื่องจากเมื่อถึงเวลาที่กำหนดก็จะมีข้ออ้างจากเหตุผลเรื่องความสงบเรียบร้อยจากแนวทางการปฏิรูปหลายด้าน รวมทั้งการสร้างความปรองดองของคนในชาติที่ขัดแย้งยาวนานหลายปี ที่สำคัญแกนนำรัฐบาลบางคนประกาศจะอยู่ยาวตามแนวทางการปฏิรูป 20 ปี ทั้งที่หลังจากยึดอำนาจในปี 2557 ก็บอกว่าจะอยู่ไม่นาน จะมีการเลือกตั้งในปี 2558 แต่สุดท้ายไม่มีการเลือกตั้งโดยไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ”

ไม่ใช่มีเพียงเท่านี้ที่ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกรอบเวลาที่ท่านผู้นำประกาศออกมา หากดูตามกระแสสังคมทั่วไปส่วนมากก็ไม่ได้ตื่นเต้นต่างรู้สึกเฉยๆกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญที่จะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ตามกรอบเวลาที่ท่านผู้ประกาศได้หรือไม่คือกฎหมายลูก หากไม่มีอุบัติเหตุให้กฎหมายถูกคว่ำคาสภาเหตุผลข้ออ้างอื่นหากคิดจะเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกดูจะไม่มีน้ำหนัก

กฎหมายลูกจึงเป็นกุญแจสำคัญเพียงดอกเดียวเท่านั้นที่จะไขประตูปล่อยคืนอำนาจให้กลับสู่ประชาชนหลังจากถูก คสช.ยึดเอาไว้ตั้งแต่ปี2557


You must be logged in to post a comment Login