วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปัจจัยเดียว?

On October 19, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

“บิ๊กป้อม” ประกาศย้ำชัดโรดแม็พเลือกตั้งจะเป็นไปตามกำหนดเดิมต่อเมื่อจากนี้ไปจนถึงวันประกาศวันเลือกตั้งจะต้องไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคเลย ทุกอย่างต้องราบเรียบ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วดูเหมือนว่าปัจจัยที่จะทำให้โรดแม็พเป็นไปตามกำหนดหรือต้องเลื่อนออกไปเหลือแค่ปัจจัยเดียว คือการพิจารณากฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ เพราะปัจจัยอื่นๆ เช่น การปลุกปั่นต่อต้านคสช. ความไม่สงบในสังคมชั่วโมงนี้น่าจะไม่มีแล้ว เมื่อเหลือปัจจัยเดียว จึงต้องรอลุ้นกันไปทีละฉบับว่าจะมีฉบับไหนเกิดอาการสะดุดหัวทิ่มในสนช.หรือไม่

การสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่แทนชุดเดิมที่ถูกโละพ้นจากตำแหน่งยังคงเดินหน้าต่อไปไม่มีอะไรมาทำให้สะดุด

แม้จะมีเสียงท้วงติงจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ว่าที่อดีตกกต. เกี่ยวกับคุณสมบัติของตัวแทนจากศาลรัฐธรรมนูญคือ นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ ที่อาจพ้นจากตำแหน่งข้าราชการทางการเมืองไม่ถึง 10 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด แต่คณะกรรมการสรรหาได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีปัญหา โดยยืนยันว่านายเจริญศักดิ์ ไม่เคยเป็นข้าราชการการเมืองมาก่อน

แต่ปัญหาการขาดคุณสมบัติกลับไปอยู่ที่ตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ที่ส่งรายชื่อมาไม่ทันตามเดดไลน์ที่กำหนดคือวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้คณะกรรมการสรรหากกต.ชุดใหม่เหลือทำหน้าที่แค่ 6 คน

จากนี้จะเปิดรับผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกกต.ชุดใหม่ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม ถึง วันที่ 10 พฤศจิกายน ใครสนใจอยากเป็นกกต.คุมการเลือกตั้งไปยื่นใบสมัครกันได้ที่ห้องโถงชั้น 1 อาคาร 2 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น กทม.

เท่ากับว่าการสรรหากกต.ชุดใหม่เริ่มต้นนับหนึ่งแล้ว ส่วนจะนับไปได้ตลอดรอดฝั่งจนได้กกต.ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่แทนชุดปัจจุบันที่จะต้องพ้นตำแหน่งหรือไม่ หรือต้องนับกลับไปกลับมาคงติดตามดูกันต่อไป โดยเฉพาะขั้นตอนการพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับบุคคลที่ผ่านการสรรหาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

คนผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจากกรรมการสรรหา อาจไม่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช.ก็ได้

อย่างที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพูดไว้ว่าที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สนช.) ประกาศให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 นั้น เป็นการประกาศภายใต้เงื่อนไขว่าทุกอย่างต้องราบรื่นไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆเกิดขึ้นเลยจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง

ถ้าจะพิจารณาถึงปัญหาที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกำหนดหรือมีอันต้องเลื่อนออกไปนั้นตอนนี้ดูเหมือนว่าเหลืออยู่ปัจจัยเดียวคือการทำกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ

ขณะนี้ สนช.อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินในวาระ 2 และ 3 ที่มีทั้งหมด 114 มาตรา ซึ่งน่าจะใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร เพราะมีผู้สงวนคำแปรญัตติมากถึง 22 มาตรา รวม 28 ประเด็น ซึ่งในกลุ่มผู้สงวนคำแปรญัตติยังแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม เรื่องที่เห็นแย้งกันมากที่สุดคือเรื่องเกี่ยวกับอำนาจผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)

ท้ายที่สุดการพิจารณาร่างกฎหมายนี้อาจต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายขึ้นมาพิจารณา ซึ่งก็จะทำให้ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่

นอกจากพ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ยังมีร่างกฎหมายลูกที่จ่อคิวรอเข้าสภาให้สนช.พิจารณาประกอบด้วยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.  ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และ 3.พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส.

เมื่อการพิจารณาร่างกฎหมายลูกของ สนช.เป็นปัจจัยเดียวที่จะส่งกระทบต่อโรดแม็พเลือกตั้งจึงต้องรอลุ้นกันไปทีละฉบับว่าจะมีฉบับไหนเกิดอาการสะดุดหัวทิ่มในสนช.หรือไม่

 


You must be logged in to post a comment Login