วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

2เรื่องรอให้แก้

On October 30, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ตั้งแต่สัปดาห์นี้รัฐบาลทหารคสช.ต้องโชว์ฝีมือบริหารจัดการน้ำที่มีปริมาณน้ำสะสมอยู่ค่อนข้างมากแม้จะไม่เท่าปี 2554 แต่ถ้าบริหารจัดการไม่ดีปล่อยให้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างจะไม่เหลือเครดิตให้นับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชดเชยเยียวยาหลังน้ำลดที่ต้องทำให้ไวเพื่อกู้ศรัทธาที่หายไปกับสายน้ำก่อนหน้านี้ นอกจากเรื่องน้ำแล้วเสียงเรียกร้องให้ปลดล็อกพรรคการเมืองจะกลับมาดังกวนใจผู้มีอำนาจอีกครั้งเพราะมีหลายเรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำให้เสร็จใน 90-180 วัน ตามกฎหมายกำหนดซึ่งเริ่มนับหนึ่งมาตั้งแต่วัน 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนจะได้ไฟเขียวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ว่ารัฐบาลทหารคสช.จะมองเสียงเรียกร้องนี้อย่างเข้าใจหรือมองว่าเป็นการสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในบ้านเมือง

หลังผ่านพระราชพิธีสำคัญ งานแรกที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องเร่งมือทำคือการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมากที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางที่มวลน้ำก้อนใหญ่จากภาคเหนือได้ไหลลงมาจ่อปริมณฑลแล้ว

อย่างไรก็ตามถือว่ารัฐบาลยังโชคดีอยู่บ้างที่ประเทศไทยผ่านพ้นฤดูฝนไปแล้ว ทำให้ไม่มีน้ำใหม่ไหลมาเพิ่มเติม การระบายน้ำจากเขื่อนหลักน่าจะอยู่ในระดับทรงตัวและลดลงได้ตามลำดับ แต่หากบริหารจัดการไม่ดีปล่อยให้มวลน้ำลามท่วมไปทั่วจะไม่เหลืออะไรให้นับถือเพราะปริมาณโดยรวมปีนี้ยังน้อยกว่าปี 2554 ที่ท่วมใหญ่

หลังสถานการณ์เป็นปรกติการเยียวยาชดเชยความเสียหายที่ประชาชนได้รับ ต้องทำให้ไว ต้องเทกแอ๊กชั่นให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้ละเลยต่อความเดือดร้อน เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ารัฐบาลทหารคสช.ถูกต่อว่าจนเครดิตหายไปพอสมควร

พ้นจากเรื่องน้ำอีกเรื่องที่น่าจะกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้งคือการเรียกร้องให้ปลดล็อกพรรคการเมืองให้เริ่มทำกิจกรรมได้หลังจากที่พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาแล้วพักใหญ่

จากนี้ไปเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลทหารคสช.ผ่อนปรนให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมภาคบังคับจะดังมากขึ้นเพราะมีภารกิจหลายอย่างที่พรรคการเมืองต้องทำตามข้อกำหนดและเงื่อนเวลาของกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

ที่สำคัญก่อนหน้านี้ผู้มีอำนาจหลายคนพูดจาในทำนองให้คำมั่นสัญญาว่า หลังผ่านพ้นเดือนตุลาคมไปแล้วจะเปิดไฟเขียวให้พรรคการเมืองเริ่มทำกิจกรรมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปีหน้าตามโรดแม็พ

สำหรับสิ่งที่พรรคการเมืองต้องทำตามข้อบังคับของกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ประกอบด้วย

1.แจ้งจำนวนสมาชิกล่าสุดโดยการยืนยันตัวบุคคลที่มีอยู่จริงและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 90 วัน นับจากวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็จะครบกำหนดต้องแจ้งภายในวันที่ 5 มกราคม 2561 ซึ่งการยืนยันตัวบุคคลที่ดูเหมือนง่ายแต่อาจเป็นเรื่องยากเมื่อกฎหมายกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามไว้หยุมหยิม เช่น ไม่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใด ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยพ้นโทษไม่เกิน 10ปี ไม่เป็นเป็นบุคคล ในวงข้าราชการ งานยุติธรรม พนักงานของรัฐ ที่ถูกสั่งให้พ้นตำแหน่ง หรือถูกคำพิพากษาลงโทษเพราะทุจริต ฉ้อโกง ฟอกเงิน ค้ายาเสพติด เป็นเจ้ามือหรือเจ้าของบ่อนพนัน รวมถึงค้ามนุษย์

2.ให้สมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คนจ่ายเงินบำรุงพรรคขั้นต่ำ 50 บาท ภายใน 180 นับแต่กฎหมายบังคับใช้  และภายใน 1 ปี ต้องเก็บเงินบำรุงพรรคจากสมาชิกให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คน กรณีเป็นพรรคตั้งใหม่ยังมีสมาชิกไม่ถึง 500 คน ต้องหาสมาชิกให้เกินกว่า 500 คนภายใน 180 วัน หรือวันที่ 4 เมษายน 2561

3.ต้องทุนประเดิมสำหรับใช้ทำกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท โดยผู้ร่วมก่อตั้งพรรคลงขัยได้คนละไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนพรรคเก่าให้คำนวนจากทรัพย์สินพรรคที่มีอยู่เป็นทุนประเดิมได้ กรณีนี้ต้องทำให้เสร็จภายใน 180 วัน

4.ภายใน 180 วันต้องจัดประชุมใหญ่สามัญเพื่อแก้ข้องบังคับ ประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง ประกาศนโยบาย เลือกหวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรค ในการประชุมใหญ่ครั้งแรกต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคไม่ต่ำกว่า 4 สาขา และสมาชิกไม่ต่ำกว่า 250 คนเข้าร่วม และให้สิทธิลงคะแนน

5.ภายใน 180 วันต้องตั้งสาขาพรรคให้ได้ภาคละอย่างน้อย 1 สาขา โดยแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกที่เป็นคนในพื้นที่นั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 500 คน จังหวัดใดไม่มีสำนักงานพรรค หรือสาขาพรรคแต่มีสมาชิกเกิน 100 คนต้องแต่งตั้งตัวแทนพรรค หากทำไม่ทันตามกำหนดอย่างครบถ้วนจะถูกตัดสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่มีข้อยกเว้นให้สำหรับการเลือกตั้งครั้งแรก

ยังมีเรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำคือการให้สมาชิกพรรคแต่ละจังหวัดร่วมคัดเลือกตัวผู้สมัครส.ส. หรือที่เรียกว่า ไพรมารี่โหวต

เหล่านี้คือสิ่งที่พรรคการเมืองต้องทำให้เสร็จตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดซึ่งมีทั้งที่ต้องทำให้เสร็จใน 90 วันและ 180 วัน โดยเริ่มต้นนับหนึ่งมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา

เมื่อมีสิ่งที่ต้องทำมากมายเสียงเรียกร้องให้ปลดล็อกพรรคการเมืองจากนี้จึงย่อมต้องกลับมาดังกวนใจผู้มีอำนาจอีกครั้ง ส่วนจะได้ไฟเขียวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ว่ารัฐบาลทหารคสช.จะมองเสียงเรียกร้องนี้อย่างเข้าใจหรือมองว่าเป็นสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในบ้านเมือง


You must be logged in to post a comment Login