- วัดสวนแก้วจัดงานวันเด็กปี 68Posted 16 hours ago
- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 2 days ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 3 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 4 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 7 days ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 1 week ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 1 week ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 2 weeks ago
- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 2 weeks ago
ปรองดองเปลื้องทุกข์ / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ถือเป็นวันสำคัญของคนไทยทั้งแผ่นดิน เพราะเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 และถือเป็นการแสดงความอาลัยและไว้ทุกข์ต่อพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
ในหลักธรรมคำสอนทางศาสนาแล้วต้องการให้สลัดทุกข์ เปลี้องทุกข์ ปลดทุกข์ ไม่ใช่ไว้ทุกข์ เก็บทุกข์ ซึ่งรัฐบาลประกาศว่าวันที่ 30 ตุลาคมเป็นวันปลดทุกข์ ปล่อยทุกข์ หลังจากที่ประชาชนไว้ทุกข์มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม
หลังการไว้ทุกข์จะเหลืออะไรล่ะ บางคนบอกให้นำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาใช้ อย่างเรื่องความไม่ปรองดอง ไม่สามัคคีต่างๆ ถ้าเรายังไม่มีความสามัคคีไม่ปรองดอง ก็จะมีทุกข์ไม่หยุด อย่างเมื่อไม่กี่วันมีรายงานข่าวว่า พรรคเพื่อไทยอาจจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล แล้วให้ คุณชวน หลีกภัย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
อาตมามองดูก็ว่าเข้าท่าดี เพราะคุณชวนจะเล่นการเมืองไม่รุนแรง ไม่แตกหัก แต่เชือดเฉือนแบบใบมีดโกน แต่อาบน้ำผึ้ง ซึ่งเมื่อไม่กี่วันคุณชวนก็มาเยี่ยมอาตมาตอนเกือบ 3 ทุ่มแล้ว ยังพูดจาแหลมคมและสุขภาพดี ถ้าจะเป็นนายกรัฐมนตรีแก้ขัดช่วงเปลี่ยนผ่านก็น่าจะพอรับกันได้ ถ้าฝ่ายพรรคเพื่อไทยยังมีปัญหาเรื่องผู้นำพรรค โดยเฉพาะ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถ้าตอนนั้นทำตามนโยบายของ คุณชัชชาติ เราคงไม่เสียเงินเพิ่มเป็นแสนๆล้านบาทเพื่อมาทำโครงการการคมนาคมต่างๆ อันนี้ก็น่าเสียดาย ถ้าทางทหารไม่คิดเรื่องพวกฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ดึง คุณชัชชาติ มาได้ก็น่าจะทำให้เป็นจุดแข็งจุดขายได้เยอะ
ดังนั้นหลังวันที่ 30 ตุลาคมที่ให้ปลดทุกข์ก็หวังว่าจะปลดความแตกแยกที่แบ่งกันเป็นฝักเป็นฝ่าย การเมืองก็เลิกแบ่งแยก เล่นกันแบบเอาเป็นเอาตาย ใส่ร้ายป้ายสี ไม่เช่นนั้นการเมืองก็จะเป็นทุกข์ต่อไปและจะเกิดรัฐประหารเรื่อยๆ
ถ้าถามว่าจะปรองดองกันได้มั้ย ก่อนหน้านั้นคงไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ แต่ไม่มีรัฐบาลเลือกตั้ง 4 ปี 5 ปี จะเรียกว่าเว้นวรรคการเมือง เป็นการไว้ทุกข์ของนักการเมืองที่ทำให้เกิดทุกข์ก็แล้วแต่ วันที่ 26 ตุลาคมที่ถือว่าสิ้นสุดสรีระร่างกายของในกลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเถ้าถ่าน สสาร แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือพระราชดำรัส คำสอน คำเตือน ถ้าพวกเรายึดมาปฏิบัติ เราจะคลายทุกข์ เปลื้องทุกข์ได้
ก็ขอให้ฝ่ายการเมืองเปลื้องทุกข์ ปลดทุกข์ เลิกใส่ร้ายป้ายสี หันมาสามัคคีปรองดองกันสักทีเถอะ ปิดประตูไม่ให้ทหารยึดอำนาจอีก ถ้าการเมืองดี หากยึดอำนาจ ทหารก็ต้องตายหยังเขียด โดนก้อนอิฐแน่นอน ก็ขอให้สร้างความสามัคคีปรองดองเพื่อจะได้พัฒนาประชาธิปไตยให้เดินหน้า โดยนำเอาพระราชดำรัสมาเป็นที่ตั้ง เรื่องแพ้ชนะเอาไปไว้ข้างหลัง ไม่เล่นกันแบบใส่ร้ายป้ายสีกัน เอาขี้โยนใส่กัน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้อีกฝ่าย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login