วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เอสซีลอร์ฯ เสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจแว่นตา ส่ง “โบ ลอง” แว่นกันแดดจากอิตาลีบุกตลาด

On November 2, 2017

เอสซีลอร์ฯ สบช่องตลาดแว่นตาระดับกลางไร้คู่แข่ง เร่งผนึกพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ส่ง “โบ ลอง” แว่นตาสุดพรีเมี่ยมจากอิตาลี่บุกตลาดเมืองไทย ชูจุดเด่นสินค้าพรีเมียมราคาเข้าถึงง่าย วางเป้า 5 ปี โกยยอดขาย 200 ล้านบาท รั้งเบอร์ 2 ตลาดแว่นระดับกลางเมืองไทย

นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเลนส์แว่นตาระดับโลก และได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายแว่นตาโบลอง BOLON ในไทย เปิดเผยว่า “เอสซีลอร์ เติบโตในไทยมากว่า 10 ปี มีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม หลังจากนั้นจึงมองหาธุรกิจที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนร้านแว่นตาที่เป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัทให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือแผนกแว่นตา ผ่านการนำสินค้าต่างๆเข้ามาเพิ่มเติม นั่นก็คือกลุ่มธุรกิจแว่นตาพรีเมี่ยมระดับบน ไม่ว่าจะเป็น กุชชี่,โบเตก้า,คาเทียร์ และพูม่า เป็นต้น ล่าสุดเพื่อเป็นการเติมพอร์ตกลุ่มธุรกิจแว่นตาของบริษัทให้ครบทุกเซกเมนต์ จึงได้ร่วมทุน (JV) กับบริษัทแม่ของแบรนด์โบลอง (BOLON) จากอิตาลี โดยได้รับสิทธิ์ในการทำตลาดในไทยและกลุ่มประเทศอินโดนจีนเป็นหลัก (และสามารถวางจำหน่ายได้ในทุกประเทศที่มีเอสซีลอร์วางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกทั้ง 70 ประเทศ) โดยเริ่มเปิดตัวแบรนด์ในไทยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยชูจุดเด่นดีไซน์และวัตถุดิบจากอิตาลี่ และมีการดีไซน์ให้เหมาะกับคนเอเชียเป็นพิเศษ”2 นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น ประเทศไทย จำกัด

“สำหรับแผนงานนับจากนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดกว่า 10 ล้านบาท (จนถึงสิ้นปี) ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยกลยุทธ์หลักที่บริษัทจะนำมาทำตลาดคือการสร้างแบรนด์ผ่านเซเลเบรตี้ต่างๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการสร้างการรับรู้ โดยในเมืองไทยใช้ “ใหม่-ดาวิกา โฮเน่” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักช่วง 2 ปีนับจากนี้ นอกจากนี้ยังจะเน้นสื่อสารแบรนด์โดยเน้นงานดีไซน์สวยระดับลักชัวรี่ หรือกล่าวคือเป็นงานพรีเมี่ยมที่เหมาะสมกับคนเอเชียแต่ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านสินค้าที่มีความหลากหลาย 2 คอลเลคชั่นต่อปีหรือราว 200-300 รายการ โดยมีระดับราคาตั้งแต่3,000-4,500 บาท โดยวางเป้าหมายเจาะตลาดรับกลางถึงบนที่นิยมใช้แว่นกันแดดตามเทรนด์แฟชั่นและเปลี่ยนบ่อย นอกจากนี้ยังมีการทำตลาดในช่องทางออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย”

อย่างไรก็ตามปัจจุบันแว่นตากันแดดที่มีในตลาดเป็นแว่นที่เป็นแบรนด์เนม มีราคาค่อนข้างสูงและจับต้องยาก หลังจากนั้นก็เป็นตลาดแว่นตาที่มีราคาถูกเลยในระดับแมส แต่ว่าในตลาดระดับราคา3,500-4,000 บาท ในตลาดแว่นตายังมีช่องว่างอยู่ที่ไม่มีผู้เล่นเลย เลยตัดสินในจำแว่นตาโบลอง มาทำตลาดเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายระดับกลางสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยวางเป้าหมาย 5 ปีนับจากนี้คือการติดท็อป 2 ในตลาดแว่นกันแดดเมืองไทย หรือมียอดขายราว 5 หมื่นชิ้น หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท หลังจากช่วงปีแรกที่มีการเปิดตัวบริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่า 200-300% และวางเป้าหมายขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังร้านค้าแว่นตาเพิ่มเป็น 1,000 ร้านค้าในช่วง 3 ปีนับจากนี้ จาปัจจุบันที่มีการวางจำหน่ายผ่านเชนร้านค้าแว่นตาที่เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ2 ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ แบรนด์แอมบาสเดอร์แว่นตา BOLON คนแรกของเอเชีย

“ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้แว่นตากันแดดไม่ใช่แค่เพียงปกป้องสายตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังนิยมใส่เป็นแฟชั่นด้วย ซึ่งหนึ่งคนมีแว่นตามากกกว่า 2 ชิ้นอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริโภคมองว่าแว่นตาที่สามารถใช้งานได้จริงและต้องไม่ราคาสูงจนเกินไป เพื่อที่จะใช้สามารถเปลี่ยนได้บ่อยหรือใช้งานที่หลากหลายขึ้น ซึ่งในตลาดแว่นกันแดดระดับบนนั้นมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่กับคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีงบประมาณเพียงพอในการซื้อแว่นกันแดดหลักหมื่นยังมีอยู่จำนวนมากตรงนี้เองจึงเป็นโจทย์สำคัญว่าจะทำอย่างไรให้เราสามารถเข้าไปทำตลาดตรงนี้ได้”


You must be logged in to post a comment Login