วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ฮอลลีวู้ดไม่กลัวการท้าทาย / โดย ณ สันมหาพล

On November 6, 2017

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง

ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

ภาพยนตร์เป็นสินค้าสำคัญของสหรัฐอเมริกา แต่ละปีโกยเงินทั่วโลกกว่า 10,000 ล้านเหรียญ ทำให้ฮอลลีวู้ดได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งภาพยนตร์ แต่ล่าสุดมีข่าวไม่ดีนักกับฮอลลีวู้ดคือ ภาพยนตร์ที่ออกฉายฤดูร้อนปีนี้ไม่ค่อยได้รับความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ถึงยุคตกอับหรือไม่

ปัจจุบันสื่อออนไลน์ได้นำความบันเทิงต่างๆเข้ามามากมาย รวมถึงภาพยนตร์ ถือเป็นความท้าทายอย่างมากกับการชมภาพยนตร์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง ทำให้คนได้รับชมภาพยนตร์แบบสดๆในบ้าน และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ รสนิยมการดูภาพยนตร์ของชาวอเมริกันที่ประเมินว่าส่วนใหญ่จะไปชมภาพยนตร์ในโรงเฉพาะเรื่องที่คิดว่าการดูที่โรงได้อรรถรสดีกว่า

นอกจากนี้ก็จะดูผ่านช่องทางอื่นๆที่มีมากขึ้น ยังไม่รวมถึงการดูผ่านโทรทัศน์ระบบเคเบิลที่ทำละครในมาตรฐานเดียวกับภาพยนตร์ที่ฉายในโรงและสถานบันเทิงต่างๆที่ล้วนปรับตัวให้ทันสมัยและสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์

อีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อฮอลลีวู้ดคือ การวิจารณ์ภาพยนตร์ เดิมการวิจารณ์จะมาจากผู้มีคุณวุฒิและวุฒิภาวะ แต่ปัจจุบันทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ อย่างเช่นเว็บไซต์ Rotten Potatoes ที่เน้นวิจารณ์ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ๆหากพลาดโอกาสเป็นภาพยนตร์ทำเงิน ซึ่งภาพยนตร์ในสหรัฐจะแข่งขันกันดุเดือดช่วงฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ และยังมีวันหยุดสำคัญของชาติคือวันชาติและวันแรงงาน ซึ่งคนอเมริกันมักจะไปดูภาพยนตร์กันทั้งครอบครัว

ช่วงฤดูร้อนจึงเป็นดัชนีชี้วัดความเจริญและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดได้อย่างดี ซึ่งแต่ละบริษัทจะต้องสร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุดออกมา แต่ปีนี้ปรากฏว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุกเรื่องกลับไม่ทำเงินตามที่คาดไว้ ทำให้รายได้จากภาพยนตร์ปีนี้ได้เพียง 3,780 ล้านเหรียญ ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริหารแต่ละบริษัทก็ไม่คิดว่ารายได้จะลดลงมากขนาดนี้

แม้ภาวะตกต่ำในฮอลลีวู้ดจะเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่ฮอลลีวู้ดก็สามารถประคองตัวผ่านพ้นวิกฤตมาได้ อย่างในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีโทรทัศน์ออกมา ครั้งนั้นหลายฝ่ายคิดว่าจะไม่มีคนไปดูภาพยนตร์ในโรงกันแล้ว แต่ฮอลลีวู้ดก็กลับมายิ่งใหญ่ได้ โดยการพัฒนาทั้งการถ่ายทำและระบบการฉายที่ทำให้การดูภาพยนตร์ในโรงมีความสวยงามและตื่นตาตื่นใจมากกว่า ยังไม่รวมถึงการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างภาพยนตร์ที่คนดูแล้วต้องจดจำไปตลอดชีวิต

ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮอลลีวู้ดยังต้องเผชิญคู่แข่งใหม่รายสำคัญอย่างอิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน แต่ผู้ผลิตภาพยนตร์จากประเทศเหล่านั้นก็ล้มหายตายจากจนแทบไม่เหลือ ส่วนจีน ฮ่องกง และอินเดีย ที่มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ใหญ่มาก แต่แนวการสร้างก็จำกัด จึงไม่สามารถแย่งตลาดภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดได้

หลายทศวรรษที่ผ่านมาฮอลลีวู้ดสามารถครองตลาดได้ทั่วโลกและมีรายได้แต่ละปีมหาศาล ทำให้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเดียวกับปีนี้ที่รายได้ในต่างประเทศยังดี ช่วยให้รายได้โดยรวมไม่ตกต่ำมากจนเกินไป ขณะที่ฮอลลีวู้ดมีนโยบายการตลาดต่างประเทศด้วยการปรับปรุงโรงภาพยนตร์ให้ทันสมัย หรือสร้างโรงภาพยนตร์ใหม่ โดยเฉพาะในจีนที่คนจีนชอบดูภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลก็ผ่อนคลายการควบคุมภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ที่จีนจึงเป็นพื้นที่สำคัญของฮอลลีวู้ด ซึ่งต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงให้โอ่อ่าและให้ความบันเทิงให้มากที่สุด

ส่วนคนอินเดียที่ชอบดูภาพยนตร์ในโรงเช่นกัน แม้ที่ผ่านมาจะดูภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศมากกว่า แต่ปัจจุบันคนอินเดียให้ความสนใจภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมากขึ้น และถือเป็นการทำให้ตัวเองดูทันสมัยด้วย เพราะทำให้ได้รับรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด รวมถึงสร้างให้เกิดแฟชั่นใหม่ๆ หรือรถใหม่ๆ ฯลฯ

ความท้าทายของฮอลลีวู้ดยังมีอยู่ต่อไปท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ที่ก้าวกระโดดไปอย่างมาก ฮอลลีวู้ดต้องตามให้ทันหรือนำหน้า แต่ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์หรือโรงภาพยนตร์ก็ต้องมีการสร้างภาพยนตร์ ละคร และสารคดีต่างๆมาเผยแพร่เพื่อให้ความบันเทิง

การสร้างภาพยนตร์ไม่มีวันตาย ฮอลลีวู้ดจึงไม่กลัวความท้าทาย ขณะที่จีนกำลังต่อยอดเลียนแบบฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะอยู่ในสื่อออนไลน์หรือโรงภาพยนตร์ก็คือการแข่งขันกันสร้างความสุข ความสนุกสนาน และความหรรษาให้แก่ชาวโลก ซึ่งฮอลลีวู้ดคงไม่รู้สึกสะทกสะท้าน เพราะเคยเจอศึกหนักมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ให้จับตาดูการตอบโต้ของฮอลลีวู้ดที่จะผลิตภาพยนตร์จีนที่ครองใจคนจีนทั้งประเทศ


You must be logged in to post a comment Login