วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เธอคือผู้เสียสละ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On November 7, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

คนกรุงเทพฯทั้งหลายโปรดฟังทางนี้ ได้ยินเขาพูดกัว่า “เธอคือผู้เสียสละ” แล้วคนกรุงเทพฯเสียสละอะไรบ้าง ที่พูดอย่างนี้คือชาวอ่างทองที่เป็นด่านหน้ารับน้ำไว้เต็มๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาในกรุงเทพฯ ฉะนั้นคนกรุงเทพฯต้องทำอะไรให้กับพี่น้องชาวอ่างทองบ้าง

อาตมาว่าพวกที่ขนกฐิน ผ้าป่าแห่ไปทอดบนเขาในป่ากันนั้น ลองนึกว่าวัดที่อยู่บนเขาไม่ได้รับน้ำท่วมอะไร ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย แต่วัดแถวอ่างทอง อยุธยาจมน้ำกันไปตามๆกัน ถ้าวัดแถวนั้นไม่รับกฐิน ผ้าป่า เขาไม่ยอม ไม่เสียสละ เขาจะอยู่สบายกว่าที่เป็นอยู่นี้แน่นอน ส่วนที่เขายอมเสียสละ จะด้วยความจำใจหรือเต็มใจก็แล้วแต่ ก็ต้องถือว่าเขาก็เสียหาย สิ่งของและไร่นาจมน้ำ

คราวนี้ผู้ที่เห็นใจเขาก็ต้องเกิดสำนึก ต้องหาทางช่วยกันเยียวยาให้คนอ่างทอง อยุธยา จัดกันให้เต็มสักที จะทอดผ้าป่าเหมือนครั้งเหตุการณ์ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาก็ได้ มีพระผู้ใหญ่ทอดผ้าป่าแล้วซื้อสวนปาล์มสวนยางให้คนชราในยุคโน้น ตอนที่ปาล์มและยางราคาแพง คนชราก็มีความเป็นอยู่สุขสบาย ตายก็ไม่เดือดร้อน มีเงินดูแลมากพอ เดี๋ยวนี้รัฐบาลก็มีงบประมาณช่วย “ผู้เสียสละ” อย่างไร ประชาชนจะช่วยกันเยียวยาแข่งขันได้มั้ย เพื่อจะได้มี “ทุ่งรับน้ำ” โดยผู้เสียสละเยอะๆ ไม่ใช่ “ทุ่งสังหาร” อย่างเขมร

ทุ่งรับน้ำควรมี ควรทำ และเจ้าของทุ่งก็ควรจะได้ประโยชน์ ไม่ใช่เสียสละเปล่าๆ เพราะเขาก็ต้องเลี้ยงครอบครัว ต้องส่งลูกเรียน จึงต้องได้ความช่วยเหลือจากความเสียสละ ถ้าตัวใครตัวมันก็ยุ่ง น้ำก็จะท่วมไปทั่ว แม้กระทั่งกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นคนเราต้องมีจิตสำนึกถึงความเสียสละ อย่างทหารผ่านศึกก็มีขายดอกป๊อปปี้ ดอกมะลิไปช่วยเหลือครอบครัวทหารผ่านศึก

หลังน้ำลดแล้ว เราก็ไปทอดผ้าป่าให้ผู้เสียสละ มีกี่ครอบครัวที่ข้าวนาจม คนที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจที่น้ำไม่ท่วม ไม่ล่มจม ก็ต้องเข้าใจและมีสำนึกที่ดีมาร่วมกันช่วยเหลือ ประเทศไทยจะได้มีผู้เสียสละมากขึ้น สายพันธุ์แห่งเธอผู้เสียสละก็จะงอกงาม เราจะมีบึงเก็บกักน้ำ มีแก้มลิง หลุมขนมครกอะไรก็แล้วแต่มากขึ้น น้ำมาก็มีที่เก็บ อุทกภัยก็จะเป็นเหมือนมูลนิธิของในหลวงที่ว่า “อุทกพัฒน์” คือพัดทุกข์ออกไปให้พ้นจากประเทศไทย

อาตมานึกถึงกองทุนที่วัด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนน้ำ กองทุนผู้สูงวัย กองทุนสัมมาชีพ เสียดายที่คิดช้าไป นึกถึงพระบรมราชชนกในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งกองทุนทางการแพทย์ไว้ ท่านตั้งเมื่ออายุยังยังไม่ถึง 40 ปี อาตมามานั่งคิดดู ถ้าคิดได้ตอนอายุ 40 ปี ตอนนี้เลย 68 บั้นปลายชีวิตแล้ว ถ้าคิดตั้งกองทุนน้ำ กองทุนผู้สูงวัย กองทุนสัมมาชีพเสียตั้งแต่ต้น ป่านนี้กองทุนคงเข้มแข็ง มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีสถานที่ประกอบอาชีพให้คนยากจน ไม่ต้องไปเป็นมิจฉาชีพ จี้ปล้นแย่งชิง เสียดายที่เรามันคิดช้าไป แต่ว่าก็ดีกว่าไม่คิดเลย ก็หวังว่าเธอผู้เสียสละคงจะไม่สูญพันธุ์ จะงอกงาม คนไทยจะตั้งกองทุนรักษาพืชพันธุ์เธอผู้เสียสละไว้ให้งอกงามในบ้านเราต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login