- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จีน-สหรัฐสานสัมพันธ์ชื่นมื่น
การพบหารือกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขณะผู้นำสหรัฐเยือนจีน 8-9 พ.ย. หากเทียบระดับความสนใจจากประชาคมโลก ก็ไม่ต่างกับ “คู่มวยหยุดโลก”
แม้ประเด็นสำคัญที่ผู้นำสหรัฐกำหนดหารือกับผู้นำจีน เป็นที่ทราบกันล่วงหน้าแล้วในวงกว้าง แต่ “กองเชียร์” ก็ยังสนใจติดตามลีลาและผลการพบหารือว่าจะลงเอยอย่างไร
ผู้นำสหรัฐมีวาระสำคัญในการเจรจากับผู้นำจีน 2 ประเด็น เช่นเดียวกับการเจรจากับผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นั่นคือแผนขอความร่วมมือจากจีนช่วยหยุดความฮึกเหิมของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในด้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และช่วยปรับแผนการค้าเพื่อให้สหรัฐขาดดุลการค้าจีนน้อยลง
สำหรับกรณีเกาหลีเหนือ ทรัมป์ขอความร่วมมือจากจีน ด้วยถ้อยคำสุภาพรื่นหู โดยขอบคุณผู้นำจีนที่ช่วยกดดันเกาหลีเหนือด้วยการจำกัดการค้า และระงับการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบธนาคาร
และการพบหารือกันครั้งนี้ ทรัมป์ระบุว่าทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องกันในการร่วมมือเพิ่มความกดดัน จนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมรับข้อเสนอเข้าร่วมเจรจาหาแนวทางยุติโครงการนิวเคลียร์
ส่วนผู้นำจีนเน้นเรื่องความสัมพันธ์ ระบุว่า ความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับจีน นอกจากส่งผลดีต่อ 2 ฝ่ายแล้ว ยังส่งผลเชิงบวกต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย
ด้านการค้า ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงกรณีสหรัฐขาดดุลการค้าจีนจำนวนมหาศาล ซึ่งปีที่แล้วรวมมูลค่ากว่า 26,600 ล้านดอลลาร์ (883,100 ล้านบาท) โดยผู้นำสหรัฐใช้ถ้อยคำ “เอาใจ” จีนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของจีน แต่เป็นความบกพร่องของรัฐบาลสหรัฐในอดีต ที่ปล่อยให้การขาดดุลทรุดหนักต่อเนื่องโดยไม่มีการแก้ปัญหา
จากนั้น ผู้นำสหรัฐวกเข้าประเด็นเดิมที่เคยเกริ่นมาก่อนหน้านี้ว่า การเยือนจีนครั้งนี้เป็นความหวังที่จะหาแนวทางคลี่คลายความเหลื่อมล้ำดังกล่าว
การเยือนจีนของคณะผู้นำสหรัฐครั้งนี้ มีซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสหรัฐติดตามไปด้วย 29 คน จากประมาณ 40 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในภาคโรงงานและอุตสาหกรรม
วิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า มีการทำสัญญาการค้าการลงทุนระหว่างกันทั้งหมด รวมมูลค่ามากกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์ (8.3 ล้านล้านบาท)
บรรยากาศ “2 บิ๊ก” ของโลกพบหารือกันโดยภาพรวม อยู่ในเกณฑ์ชื่นมื่น แต่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า สหรัฐไม่น่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านมากนัก
You must be logged in to post a comment Login