- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 2 weeks ago
ไหว้พระจันทร์เปลี่ยนไป / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์
คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ของชาวจีน ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วนั้น วันไหว้พระจันทร์จะต้องรับประทานขนมไหว้พระจันทร์พร้อมกับชมจันทร์พร้อมครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีว่า ขนมไหว้พระจันทร์นั้น น้ำตาลและไขมันสูง ขนมไหว้พระจันทร์ 1 ก้อน มีพลังงานมากถึง 450 แคลอรี่ เท่ากับข้าว 3 ถ้วย แน่นอนว่าย่อมเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
ดังนั้นในปีนี้ บรรดาผลิตภัณฑ์ขนมไหว้พระจันทร์รายใหญ่ของจีนจึงได้วางขายขนมไหว้พระจันทร์ที่ชิ้นเล็กขึ้นและมีแคลอรี่ต่ำมากขึ้น อย่างเช่น ขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของปักกิ่งอย่างเต้าเซียงชุน แต่เดิมน้ำหนักเฉลี่ยของขนมไหว้พระจันทร์จะอยู่ที่ 120-150 กรัม แต่ปีนี้ขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดที่วางขายออนไลน์อยู่ที่ 110 กรัม ส่วนใหญ่จะหนักประมาณ 85 กรัมและราคาถูกเพียง 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท)
ซึ่งผู้บริโภคให้การตอบรับมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่า เมื่อขนมชิ้นเล็กขึ้นและราคาถูกลง ก็สามารถซื้อขนมรสชาติอื่นๆมาลองได้มากขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่ขนาดที่เล็กลงของขนมไหว้พระจันทร์เท่านั้น หากแต่หีบห่อและซองบรรจุก็มีขนาดเล็กลงด้วย
หลายสิบปีก่อน ขนมไหว้พระจันทร์จัดเป็นสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย หีบบรรจุก็หรูหราฟู่ฟ่า บางกล่องถึงกับมีการนำหยกมาประดับ บางกล่องขายคู่พร้อมกับสุราราคาแพง ซึ่งของเหล่านี้กลายมาเป็นของที่มาคู่กับการคอรัปชั่น การติดสินบนหรือการเพิ่มเส้นสายในการติดต่อประสานงานของภาคธุรกิจรวมไปถึงนักการเมือง
ทำให้ในปี ค.ศ. 2005 และ 2008 ทางรัฐบาลกลางของจีนต้องออกประกาศสั่งห้ามขนมไหว้พระจันทร์ที่ตกแต่งมากเกินไป โดยประกาศสั่งให้กล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ห้ามบรรจุเกิน 3 ชั้น และราคาของบรรจุภัณฑ์ต้องไม่เกิน 12 เปอร์เซ็นต์ของราคาขนมไหว้พระจันทร์ในกล่อง
แม้ว่าบรรจุภัณฑ์ของขนมไหว้พระจันทร์จะไม่หรูหราดังก่อน แต่เครื่องหรือไส้ของขนมไหว้พระจันทร์กลับเพิ่มความเข้มข้นและมีรสชาติที่แปลกใหม่มากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้ารุ่นใหม่ที่อายุยังไม่มาก
อย่างเช่นในปีนี้ ไส้ของขนมไหว้พระจันทร์มีตั้งแต่กุ้งมังกร กะหล่ำปลีดองกับเนื้อกบ เนื้อวัวกับพริกไทย หรือแม้แต่บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเป็ดปักกิ่ง ก็ยังมีการขายไส้เป็ดปักกิ่งและไส้อื่นๆที่ทำจากเป็ดอีก 35 ชนิด โดยคิดกล่องคะ 86 หยวน ( ประมาณ 450 บาท)
นอกจากนี้ โรงอาหารของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจวยังไดมีการให้บริการส่งขนมไหว้พระจันทร์โฮมเมดที่ทำสดใหม่วันต่อวันเพื่อความอร่อยและอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร
นอกจากขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์ดั้งเดิมของจีนอย่างเต้าเซียงชุนของปักกิ่ง ซิงหัวโหลวของเซี่ยงไฮ้ และจื๋อเว่ยกวนของหัวโจวแล้ว แบรนด์ทางฝั่งฮ่องกงอย่างเหม่ยซินก็เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่จีนด้วยรสชาติของไส้คัสตาร์ดไข่ที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน หรือแบรนด์ทางฝั่งตะวันตกอย่างโอเรโอ้ สตาร์บัคและไอศครีมไฮเกนดาซส์ ก็ออกมาตีตลาดคนรุ่มใหม่ด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์
ขนมไหว้พระจันทร์เพื่อสุขภาพก็ตีตลาดเช่นเดียวกัน อย่างเช่น การใช้สารให้ความหวานไซลินทอลแทนการใช้น้ำตาล หรือการรับสั่งทำขนมไหว้พระจันทร์ตามที่ลูกค้าต้องการ
ขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของชาวจีนที่มั่งคั่งขึ้นและมีสีสันหลากหลาย ก็เหมือนขนมไหว้พระจันทร์ที่หลากหลายและมีทางเลือกมากขึ้น
You must be logged in to post a comment Login