วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’เยือนเอเชียบรรลุเป้าหมาย

On November 16, 2017

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ระบุการเดินทางเยือนเอเชียประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งได้ฟื้นบทบาทของสหรัฐให้กลับมายิ่งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง

ผู้นำสหรัฐแถลงที่ทำเนียบขาว ตรงกับเวลาไทย วันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) เป็นการสรุปปิดท้ายการเยือนเอเชีย 5 ประเทศ เริ่มจากญี่ปุ่น ต่อด้วยเกาหลีใต้  จีน เวียดนาม และปิดท้ายด้วยการเข้าร่วมประชุมสุดยอดที่ฟิลิปปินส์

ทรัมป์ระบุว่า เป็นการเยือนที่ประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ตนและคณะได้รับการต้อนรับทุกที่ที่เดินทางไปอย่างอบอุ่น ด้วยอัธยาศัยไมตรี และด้วยการให้ความเคารพนับถือ

ทรัมป์ประกาศว่า บทบาทของอเมริกากลับมาแล้ว กลับมายืนอย่างแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีอนาคตสดใสอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเช่นกัน

สำหรับวาระสำคัญในการเยือนเอเชียมี 2 กรณี คือการแสวงความร่วมมือกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และการแก้ปัญหาขาดดุลการค้ากับคู่ค้าเอเชีย

กรณีเกาหลีเหนือ ผู้นำสหรัฐกล่าวโดยไม่ระบุรายละเอียดว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยอมรับว่าการที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นภัยมหันต์ และผู้นำจีนตกลงร่วมมือช่วยกดดันเกาหลีเหนือ ให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ด้านการค้า ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นลดระดับขาดดุลการค้ากับคู่ค้าเอเชียแล้ว เนื่องจากได้เน้นย้ำกับคู่ค้าเอเชียโดยเฉพาะจีน ถึงการค้าที่ยุติธรรม และแลกเปลี่ยนกันอย่างเท่าเทียม ยืนยันสหรัฐจะไม่ปล่อยให้คู่ค้าใช้วิธีละเมิดข้อตกลง เพื่อชิงความได้เปรียบทางการค้าอีกต่อไป

ทรัมป์ตำหนิรัฐบาลสหรัฐในอดีตว่า ทำให้ภาพลักษณ์สหรัฐตกต่ำ และปล่อยปละละเลยทำให้สหรัฐถูกเอาเปรียบด้านการค้า จากนั้น ทรัมป์กล่าวทำนองว่า การเยือนเอเชียครั้งนี้สามารถแก้ปัญหาทั้ง 2 อย่างได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “America first” ที่ผู้นำสหรัฐยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ

ผู้นำสหรัฐแถลงผลการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งนี้ โดยไม่ตอบคำถามนักข่าว หลังแถลงจบก็เดินเข้าห้องในทำเนียบขาวทันที

การแถลงของผู้นำสหรัฐ แตกต่างจากมุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ที่เห็นว่าผู้นำสหรัฐล้มเหลว เนื่องจากมีการกล่าวถึงวาระสำคัญ 2 กรณี ระหว่างการเยือนเอเชีย ด้วยถ้อยคำเดิมๆ ขาดความชัดเจนทั้งการกดดันเกาหลีเหนือ และแนวทางแก้ปัญหาขาดดุลการค้า

อีกกรณีที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แสดงความผิดหวังและตำหนิผู้นำสหรัฐ คือผู้นำสหรัฐไม่แตะเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเอเชียแม้แต่น้อย


You must be logged in to post a comment Login