พรรคทหารแท้ง

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าจะมีขึ้นช่วงไตรมาสแรกหรือไตรมาสสองปีหน้า อาจส่งผลให้การปลดล็อกการเมืองสนามใหญ่จะถูกลากยาวไปถึงกลางปีหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาชิงชัยในสนามเลือกตั้งช่วงปลายปีหน้าอาจทำได้ไม่ทัน ซึ่งหมายรวมถึงพรรคทหารที่จะตั้งขึ้นมาอุ้ม “บิ๊กตู่” ให้กลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคำรบสองที่พูดกันหนาหูก่อนหน้านี้ด้วยเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเกมก็ต้องเปลี่ยน ต้องเดินหมากใหม่ถ้ายังคงเป้าหมายกลับมาสานต่องานปฏิรูปส่วนจะมีแผนสองแผนสามไว้รองรับอย่างไร หรือไม่มีแผนอะไรรองรับเลย รอไปแก้ปัญหาเอาหน้างานว่ากันไปตามสถานการณ์ก็ต้องรอดูกันต่อไป

กรณีการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เป็นข่าวใหญ่ตอนนี้ยังต้องติดตามตอนจบของเรื่องว่าผลจะออกมาอย่างไรหลังจากการชี้แจงของสองฝ่ายคือฝ่ายครอบครัวกับกองทัพยังมีหลายข้อมูลที่ย้อนแย้งกันอยู่

เรื่องนี้จะจบอย่างกระจ่างได้ถ้าทั้งสองฝ่ายเปิดใจพูดความจริงและร่วมกันทำความจริงให้ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องกลัวการเสียหน้า ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดความเสียหายถ้าหากต้องการให้การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นศพสุดท้ายไม่ต้องมีลูกหลานใครต้องเสียชีวิตจากการฝึกทหารอีกอย่างที่พูดกันจริงๆ

ส่วนกระแสดราม่าเรื่องที่ว่าเคยร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไรนั้นถือว่าต้องแยกออกจากกันให้ได้ เพราะแนวคิดทางการเมืองกับความถูกต้องชอบธรรมเป็นคนละประเด็นกัน

ข้ามมาที่เรื่องการเมืองมีความเคลื่อนไหวน่าสนใจคือการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำรายชื่อทูลเกล้าฯไปแล้วที่เหลือก็รอเวลาประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

แม้ตามข่าวจะชัดเจนว่ามีคนเข้าคนออกหลายคนและทหารในครม.จะลดจำนวนลง แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้การปรับครม.ครั้งนี้เป็นพิธีกรรมขาดความศักดิ์สิทธิไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนได้ว่าจะช่วยทำอะไรๆให้ดีขึ้นหลังการปรับเปลี่ยน

ขณะที่การปลดล็อกทางการเมืองแน่นอนว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้ ที่เคาะกะลาให้ดีใจกันอยู่ตอนนี้คือจัดเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าน่าจะจัดได้ราวๆหลังเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า ดีไม่ดีอาจข้ามไปถึงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน

นั่นหมายความว่าการปลดล็อกการเมืองใหญ่แบบให้อิสระเต็มที่อาจต้องลากยาวไปถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย แต่ก่อนหน้านั้นอาจปล่อยให้ยืดเส้นยืดสายด้วยการช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นได้

เมื่อการปลดล็อกการเมืองสนามใหญ่ถูกยืดออกไปทำให้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหากมีการเลือกตั้งทั่วไปตามโรดแม็พที่กำหนดไว้เดิมจะทำให้การเลือกตั้งในช่วงปลายปีหน้าจะไม่มีพรรคการเมืองใหม่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ประชาชน

ทั้งนี้ด้วยเงื่อนไขที่หยุมหยิมยุ่งยากจะทำให้ไม่สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาได้ทันเลือกตั้ง เพราะการดำเนินการตามขั้นตอนตั้งพรรคที่กฎหมายพรรคการเมืองใหม่กำหนดไว้นั้นต้องใช้เวลาหลังรวบรวมคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันเพื่อตั้งพรรคการเมืองอย่างน้อย 5-7 เดือน

แม้จะมีสภาพเป็นพรรคการเมืองแล้วถ้าจะส่งตัวแทนลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งยังมีขั้นตอนต้องตั้งสาขาพรรค ตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และยังต้องทำไพรมารีโหวตเพื่อเลือกตัวแทนที่จะส่งสมัครเลือกตั้งในแต่ละเขตอีก

ทำให้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าหากมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พจะไม่มีพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งหมายรวมถึงพรรคทหารที่จะตั้งขึ้นมาอุ้ม “บิ๊กตู่” ให้กลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคำรบสองหลังเลือกตั้งอย่างที่พูดกันหนาหูก่อนหน้านี้ด้วย

เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเกมก็ต้องเปลี่ยน ต้องเดินหมากใหม่ถ้ายังคงเป้าหมายต้องการกลับมาสานต่องานปฏิรูป

ส่วนจะมีแผนสองแผนสามไว้รองรับอย่างไร หรือไม่มีแผนอะไรรองรับเลย รอไปแก้ปัญหาเอาหน้างานว่ากันไปตามสถานการณ์ก็ต้องรอดูกันต่อไป

You must be logged in to post a comment Login