- ปีดับคนดังPosted 13 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
วิญญาณต้องการเหมือนร่างกาย / โดย บรรจง บินกาซัน
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
แม้วิทยาศาสตร์จะมีความเจริญก้าวหน้ามากมายเพียงใดในปัจจุบัน แต่ในมิติของชีวิต วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถให้คำตอบแก่มนุษย์ได้ในเรื่องของวิญญาณที่ทำให้มนุษย์มีชีวิต
อาณาจักรวิทยาศาสตร์สามารถบอกมนุษย์ให้รู้ว่า ชีวิตมนุษย์เริ่มต้นขึ้นเมื่อสเปิร์มตัวหนึ่งในน้ำอสุจิของผู้ชายไปปฏิสนธิกับไข่ในครรภ์ของผู้หญิงแล้วกลายเป็นก้อนเลือด ก้อนเนื้อ และกลายเป็นรูปร่างในครรภ์เป็นเวลา 9 เดือน หลังจากคลอดออกมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นาน เมื่อถึงพรมแดนแห่งความตาย อาณาจักรวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับชีวิตก็สิ้นสุด หลังจากวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็เป็นใบ้ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไปเกี่ยวกับวิญญาณ
นักวิทยาศาสตร์รู้ดีว่าชีวิตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีวิญญาณ หากวิญญาณออกจากร่างเมื่อใด ร่างกายของมนุษย์ก็รอวันยุ่ยสลายกลายเป็นผุยผง ถ้าจะพูดว่าขณะมีชีวิต วิญญาณเป็นผู้รักษาเนื้อหนังและกระดูกของมนุษย์ไว้มิให้เน่าเปื่อยและทำให้มนุษย์เคลื่อนไหวได้
แต่จวบจนทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าวิญญาณคืออะไร วิญญาณเข้ามาในตัวของมนุษย์ตอนไหน เข้ามาอย่างไร และเข้ามาทางไหน และเมื่อวิญญาณออกจากร่างของมนุษย์ มันออกไปอย่างไรและออกไปทางไหน?
นักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่าวิญญาณคือพลังงาน เพราะมันทำให้มนุษย์เคลื่อนไหว แต่พลังงานทุกอย่างมีแหล่งที่มา ถ้าวิญญาณคือพลังงาน ต้นกำเนิดพลังงานนี้มาจากที่ใด? จนทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตอบได้ และจะไม่สามารถตอบได้ถ้าหากวิทยาศาสตร์ฉีกตัวออกจากศาสนา เพราะศาสนาเท่านั้นที่ให้คำตอบเรื่องวิญญาณ
อิสลามในสถานะของศาสนาไม่เคยปฏิเสธวิทยาศาสตร์ แต่สนับสนุนให้มนุษย์เรียนวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำไป เพราะถือว่าวิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่ตอบสนองความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ในขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แต่ขณะมีชีวิตมนุษย์มีวิญญาณอยู่ด้วย มนุษย์จึงต้องเรียนรู้และปฏิบัติศาสนาพร้อมกันไปเพื่อให้ชีวิตสองด้านได้รับความสมดุลและทำให้มนุษย์มีชีวิตที่สมบูรณ์
ถ้าร่างกายต้องการอาหารเพื่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรง วิญญาณก็ต้องการด้วยเช่นกัน วิทยาศาสตร์สามารถจัดหาอาหารให้แก่ร่างกายได้สารพัด แต่ไม่สามารถจัดหาอาหารให้แก่วิญญาณได้ มนุษย์จึงต้องการศาสนาให้มาทำหน้าที่ตรงนี้
ถ้าร่างกายต้องการการชำระล้างเพื่อความสะอาดหมดจดสดชื่น วิญญาณก็ต้องการเช่นกัน ถ้าวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำสบู่หรือน้ำยาอาบน้ำให้วิญญาณ ศาสนาจะสอนวิธีทำความสะอาดให้แก่จิตวิญญาณ
ถ้าร่างกายต้องการการพักผ่อนเพื่อความกระปรี้กระเปร่า วิญญาณก็ต้องการเช่นกัน ถ้าวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำตรงนี้ได้ ศาสนาจะสอนวิธีให้
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมมนุษย์จึงต้องเรียนศาสนาเพื่อนำศาสนามาปฏิบัติด้วยความเข้าใจ
ความจริงแล้วศาสนามีมาก่อนที่มนุษย์จะเริ่มจัดองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และแตกแขนงสาขาออกเป็นศาสตร์อื่นๆตามสติปัญญาของมนุษย์
แต่เพราะมนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงคำสอนที่แท้จริงของศาสนา หรือแยกตัวออกจากศาสนาเพราะพฤติกรรมของบุคลากรทางศาสนา และมุ่งเน้นทางด้านความสุขความเจริญทางกายแต่เพียงด้านเดียวโดยไม่คำนึงถึงความต้องการทางด้านวิญญาณ ดังนั้น วิญญาณของมนุษย์จึงโหยหาสิ่งที่มันต้องการ นั่นคือความสุขจากอาหาร การพักผ่อน การชำระล้างเพื่อความสะอาดหมดจดสดชื่น เช่นเดียวกับที่ร่างกายต้องการ
ประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลกพัฒนาประเทศโดยเน้นความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายหลัก ทุกวันนี้เศรษฐกิจเจริญเติบโตก็จริง แต่ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจากศีลธรรมเสื่อมทรามก็เติบโตขึ้นพร้อมกัน
ถ้าสภาพเศรษฐกิจตกต่ำหรือนโยบายเศรษฐกิจไม่สอดคล้องกับปากท้องของประชาชน ทำให้ประชาชนลุกขึ้นประท้วงหรือต่อต้านรัฐบาลได้ฉันใด วันหนึ่งสภาพสังคมที่ตกต่ำเสื่อมทรามก็อาจทำให้วิญญาณกลายเป็นกบฏได้ฉันนั้น
You must be logged in to post a comment Login