รอเสียงนกหวีด

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้ายเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ สนช.แล้วเท่ากับว่าเริ่มนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พอย่างเป็นทางการ ถ้าจะล้มเลือกตั้งเลือกทางเดียวคือต้องคว่ำร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายนี้ แต่ดูแนวโน้มมีโอกาสน้อยเพราะสถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้อให้ล้มกระดานเลือกตั้งต่อวีซ่าให้คสช. นั่งทับอำนาจเพราะมีประเด็นร้อนสะสมรอระเบิดอยู่ค่อนข้างมากขณะนี้พรรคการเมืองทุกพรรคอบอุ่นร่างกายเตรียมความพร้อมหลังเส้นสตาร์ต รอคสช.เป่านกหวีดปล่อยตัวเมื่อไหร่ก็เริ่มออกวิ่งแข่งกันได้ทันที ทุกพรรคพร้อมเล่นตามกติกาแล้วเหตุการณ์ปั่นป่วนวุ่นวายจนต้องเลื่อนเลือกตั้งจึงตัดเงื่อนไขจากฝ่ายการเมืองออกไปได้

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติรับหลักการกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นผู้เสนอ

ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.มีทั้งหมด 8 หมวด รวม 178 มาตรา สนช.ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา 33 คน ใช้เวลา 58 วัน โดยให้เวลาในการแปรญัตติไว้ 15 วัน

ถัดจากนี้ก็จะเป็นคิวการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งถือเป็นกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้ายที่สนช.จะพิจารณา หากร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ผ่าน สนช.ออกมาเมื่อไหร่การเริ่มต้นนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พจะเริ่มขึ้นได้ทันที

เมื่อเป็นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง จึงเป็นที่จับตาเป็นพิเศษว่าจะมีอะไรทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนกระทบต่อแผนจัดเลือกตั้งช่วยปลายปีหน้าหรือไม่

แนวทางที่จะใช้ยื้อหรือยืดเวลาเลือกตั้งเหลือแค่สองแนวทางเท่านั้นคือยืดเวลาการพิจารณาออกไปด้วยการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายอีกครั้งระหว่างสนช.กับคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้เหตุผลมีความเห็นไม่ตรงกันในข้อกฎหมาย

อีกแนวทางคือยืดเวลาเลือกตั้งออกไปให้นานขึ้นอีกด้วยการคว่ำร่างพ.ร.ป.สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งสองฉบับแล้วไปเริ่มต้นนับหนึ่งยกร่างกันใหม่

แต่ดูแนวโน้มแล้วสถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้อให้ล้มกระดานเลือกตั้งต่อวีซ่าให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่งทับอำนาจออกไปเพราะมีประเด็นร้อนสะสมรอระเบิดอยู่ค่อนข้างมาก จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้งสำคัญทั้ง 2 ฉบับจะถูกคว่ำกลางสภา

ขณะที่อีกด้านหนึ่งระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง รวม 8 ฉบับถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ระเบียบทั้ง 8 ฉบับประกอบด้วย

ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง วิธีการรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง พ.ศ.2560, ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่สมาชิกพรรคการเมืองซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2560, ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง การเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง และการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พ.ศ.2560,

ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การรายงานทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง พ.ศ.2560, ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง บัญชีรายชื่อภาคและจังหวัด พ.ศ.2560, ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560, ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการบริหารเงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง พ.ศ.2560

เมื่อกกต.ออกระเบียบมาแล้วพรรคการเมืองก็มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน แต่ยังติดปัญหาที่ คสช.ยังไม่ยอมเปิดไฟเขียวให้ทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อดำเนินการต่างให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายพรรคการเมือง

ขณะนี้พรรคการเมืองทุกพรรคอบอุ่นร่างกายเตรียมความอยู่หลังเส้นสตาร์ต  รอคสช.เป่านกหวีดปล่อยตัวเมื่อไหร่ก็เริ่มออกวิ่งแข่งกันได้ทันที

นักการเมืองพร้อมเล่นตามกติกาแล้วเหตุการณ์ปั่นป่วนวุ่นวายจนต้องเลื่อนเลือกตั้งจึงตัดเงื่อนไขจากฝ่ายการเมืองออกไปได้เพราะทุกพรรคอยากลงสนามใจจะขาด

You must be logged in to post a comment Login