วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หัวปริศนา / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On December 4, 2017

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

ศีรษะมนุษย์เพศหญิงถูกพบวางริมถนนสายเปลี่ยวในชนบทที่มีผู้คนอาศัยเบาบาง ลูกนัยน์ตาถูกควักออกแล้วยัดลูกบอลยางสีแดงไว้แทนที่ ทิ้งปริศนามากมายให้กับตำรวจ ไม่รู้แม้กระทั่งสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากมีแต่หัวไม่มีตัว

บ่ายวันที่ 12 ธันวาคม 2014 หลังโรงเรียนเลิกแล้วเด็กชายชาร์ลเดินกลับบ้านไปตามถนนเมสัน เมืองอีโคโนมี รัฐเพนซิลเวเนีย มันเป็นถนนลาดยางมะตอยแคบๆขนาด 2 เลนที่มุ่งหน้าไปยังชุมชนเล็กๆ ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่เพียงไม่กี่หลังคาเรือน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างมีขนปุกปุยสีขาวที่พงหญ้าห่างจากถนนราว 10 เมตร

ชาร์ลคิดว่าเป็นสัตว์นอนตายเพราะความหนาวเย็นของอากาศในเดือนธันวาคม เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ปรากฏว่าเป็นศีรษะมนุษย์ผมหยิกสีขาว เขาตกใจรีบวิ่งกลับบ้านเพื่อบอกให้พ่อแม่รู้ หลังจากได้รับแจ้งเหตุตำรวจก็ระดมกำลังออกค้นหาลำตัวผู้เคราะห์ร้ายทั้งทางบกและทางอากาศแต่ก็ไม่พบ

ศีรษะที่พบเป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 50-60 ปี ผมหยักศกสีเทาเงิน ศีรษะถูกตัดออกจากลำตัวอย่างลวกๆเพราะรอยไม่เรียบ ตัดในตำแหน่งที่เป็นช่วงต่อระหว่างศีรษะกับกระดูกสันหลังพอดี แสดงว่าผู้ตัดจะต้องมีความรู้ทางด้านกายวิภาคเป็นอย่างดี ดังนั้น ตำรวจจึงพุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยไปที่ผู้ที่เรียนแพทย์หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับศพ

สุดประหลาด

การตัดเอาเฉพาะส่วนศีรษะมนุษย์ไปวางไว้ข้างทางก็นับว่าเป็นเรื่องประหลาดพออยู่แล้ว แต่สิ่งที่พบต่อมายิ่งสร้างความประหลาดมากขึ้นไปอีก ในเบ้าตามีการสวมอายแค็บ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สัปเหร่อใช้ทำให้ศพปิดตา เท่านั้นยังไม่พอ ลูกนัยน์ตาศพถูกควักออก 2 ข้างแล้วใส่ลูกบอลยางสีแดงเข้าไปแทนที่

ตำรวจสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของแก๊งค้าอวัยวะมนุษย์ควักลูกนัยน์ตาศพเอาไปขายตลาดมืด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาลูกบอลยางสีแดงไปใส่แทนที่ลูกนัยน์ตา สิ่งนี้เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่าศีรษะผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้กลิ้งหล่นหรือถูกขว้างออกมาจากรถระหว่างขนส่ง แต่ถูกจงใจนำมาวางไว้ที่ข้างถนน เพราะหากศีรษะกลิ้งหล่นหรือถูกขว้างออกมาจากรถ แรงกระแทกจะทำให้ลูกบอลยางหลุดกระเด็นออกจากเบ้าตา

แม้ว่ารอยหั่นเนื้อเยื่อภายนอกจะมีสภาพไม่เรียบร้อย แต่เนื้อเยื่อตอนในกลับราบเรียบตามแบบฝีมือของผู้ชำนาญ โดยเฉพาะการเจาะจงหั่นตรงรอยต่อระหว่างกะโหลกกับกระดูกสันหลังพอดิบพอดีแสดงว่าผู้ลงมือทำต้องมีความรู้ด้านกายวิภาคเพื่อรักษาอวัยวะส่วนอื่น

ในละแวกนั้นไม่มีการแจ้งความว่ามีศพหาย ไม่มีการขโมยศพจากสุสาน ไม่มีแจ้งความคนหาย หากเป็นศพคนจรจัดจะมีหน่วยงานเข้ามาดูแลรับศพและมีบันทึกเป็นหลักฐาน แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

แก๊งค้าอวัยวะมนุษย์

ขณะที่ขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์ในอเมริกาเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ไบรอัน โกรว์ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้ลงมือสืบสวนเรื่องนี้ เขาอ้างว่าได้ติดต่อนายหน้าค้าอวัยวะมนุษย์ขอซื้อศีรษะมนุษย์ 2 หัว ในราคา 300 ดอลลาร์ต่อหัว เขาพบว่ารอยตัดมีลักษณะคล้ายกับศีรษะปริศนาที่พบในเมืองอีโคโนมี

แก๊งค้าอวัยวะมนุษย์ในอเมริกาใช้วิธีขโมยศพที่เสียชีวิตใหม่ๆ ไม่ได้ฆ่าคนเพื่อแล่อวัยวะมาขาย ดังนั้น จึงเป็นไปได้มากว่าศีรษะหญิงปริศนาถูกตัดออกจากร่างหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว จากการวิเคราะห์เนื้อเยื่อพบว่ามีสารตกค้างของยารักษาโรคหัวใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจก่อนจะถูกตัดศีรษะออกจากตัว

ตำรวจตรวจสอบข้อมูลผู้สูญหายใน 14 รัฐแต่ก็คว้าน้ำเหลว การตรวจสอบ DNA ไม่ตรงกับใครเลยในฐานข้อมูล หรือแม้กระทั่งการสืบข้อมูลจากธนาคารอวัยวะที่เก็บรักษาชิ้นส่วนมนุษย์เพื่อรอการส่งต่อให้กับหน่วยงานที่ต้องการใช้ เช่นโรงเรียนแพทย์ ก็ไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน

การตรวจประวัติการทำฟันไม่พบข้อมูลที่มีประโยชน์เท่าไรนัก นอกจากพบว่าสารที่ใช้อุดฟันเป็นชนิดที่มีใช้หลังปี 2004 และเป็นสารที่มีราคาถูก ทำให้เดาว่าผู้เคราะห์ร้ายเป็นคนชั้นล่างมีรายได้น้อย

งมเข็มในมหาสมุทร

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบหาเบาะแสจากลูกบอลยางสีแดง พบว่าเป็นลูกบอลยางที่ผลิตขึ้นสำหรับเป็นส่วนประกอบของเล่นเด็ก ซึ่งมีโรงงานมากกว่าพันแห่งทั่วอเมริกาผลิตลูกบอลยางแบบเดียวกันนี้ และถูกส่งออกไปจำหน่ายในรัฐต่างๆทั่วอเมริกา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสืบได้ว่าลูกบอลยางสีแดงนี้มาจากไหน

ที่แปลกก็คือทำไมต้องใส่ลูกบอลยางสีแดงในเบ้าตา โดยศพที่บริจาคดวงตาจะถูกยัดสำลีในเบ้าตา หรืออย่างดีหน่อยก็ใช้ลูกบอลสีธรรมชาติที่นิยมใช้กันทั่วไป เควิน มอแรน ผู้คลุกคลีกับธุรกิจให้บริการแต่งศพมานานกว่า 40 ปี กล่าวว่า ไม่เคยเจอใครใช้ลูกบอลยางสีแดงใส่แทนลูกนัยน์ตาศพมาก่อน

การใช้ลูกบอลยางสีแดงเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก อย่างไรก็ตาม การใช้อายแค็บเพื่อปิดเปลือกตาเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการแต่งศพ ทำให้ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คดีฆาตกรรม เพราะพฤติกรรมเหมือนจะเป็นการแต่งศพให้ดูเรียบร้อยมากกว่า

เหมือนจะใช่

ตำรวจสร้างภาพใบหน้าสามมิติเพื่อนำไปใช้สืบสวนหาตัวตนผู้เคราะห์ร้าย เออร์เนสต์ พอร์ริน แจ้งว่าหญิงคนนี้มีโครงหน้าคล้ายคลึงกับทามาร่า พอร์ริน น้องสาวของเขาที่หายออกจากบ้านไปเมื่อปี 1986 ขณะนั้นเธอมีอายุ 16 ปี

ภาพสามมิติและภาพถ่ายทามาร่ามีลักษณะใกล้เคียงกันมาก ผมหยิกหยักศก ปลายจมูกกลม และคางมน เออร์เนสต์ติดต่อตำรวจเพื่อนัดหมายทำการตรวจ DNA แต่สุดท้ายตำรวจไม่นัดหมายให้มาตรวจและเงียบหายไปเฉยๆ

ทางด้านตำรวจชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เขาค่อนข้างมั่นใจว่าศีรษะที่พบไม่ใช่ทามาร่า และไม่ใช่คดีคนหาย แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์และการขโมยศพมากกว่า

สิ่งที่เป็นปริศนาพอๆกับใครเป็นเจ้าของศีรษะคือ ทำไมคนร้ายถึงเอาศีรษะมาบรรจงวางไว้ข้างถนน และมีเหตุผลอะไรจึงต้องยัดลูกบอลยางสีแดงไว้ในเบ้าตา ชาวเมืองอีโคโนมีก็ได้แต่หวังว่าตำรวจจะไขปริศนานี้ได้ในเร็ววัน


You must be logged in to post a comment Login