‘ขาลง’อะไรก็แย่หมด! / โดย Pegasus

• Tweet
• 

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน

ผู้เขียน : Pegasus

ไม่ว่าจะพยายามยืดอายุรัฐบาลทหารต่อไปอย่างไรหรือจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งก็ตาม การบริหารประเทศช่วงขาลงและรอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่นั้น ทำให้อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด

ประการแรกสุด คือผลงานตลอด 3 ปี และกำลังจะผ่านเข้าปีที่ 4 ไม่ต้องใช้ตัวเลขสถิติหรือให้สัมภาษณ์อะไร เพราะคนให้สัมภาษณ์ก็รู้ดีว่าไม่จริง พ่อค้าแม่ค้า คนเดินถนนที่เป็นคนส่วนใหญ่นั้น ไม่มีส่วนในมหกรรมอิ่มหมีพีมันกับกลุ่มทุนผูกขาดที่เป็นผู้มีอุปการคุณและสนับสนุนหลักรัฐบาลทหาร ประชาชนส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจ แม้แต่พวกเดียวกันกับคณะรัฐประหารก็ลำบากกันถ้วนหน้า

ประการที่ 2 ในปีหน้าจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทยกับจีนจะทำให้สินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้ผลิตไทยไม่มีศักยภาพในการส่งออกไปขายที่จีนมากนัก จึงจะเสียเปรียบดุลการค้ามหาศาล นอกจากจะทำให้ไม่มีเงินตราเข้าประเทศแล้ว เงินยังจะไหลออกเป็นจำนวนมากอีกด้วย เพราะระบบราชการรู้จักแต่จะเก็บภาษี เก็บค่าธรรมเนียมให้ได้มากที่สุดโดยไม่ประสีประสาเรื่องการค้าขายเพื่อนำเงินเข้าประเทศ ตลอดเวลายาวนานที่ผ่านมาจึงได้แต่คาดคะเนต่างๆนานา เหมือนปฏิบัติการจิตวิทยาหรือการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่า ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจริง

ประการที่ 3 ข้าราชการเก่งๆถูกย้ายเพื่อหลีกให้พวกมีเส้นเข้ามามีตำแหน่งสำคัญๆ โดยคนเหล่านี้เก่งที่จะประจบรัฐบาลทหาร ขณะที่รัฐบาลทหารก็ไร้ความสามารถที่จะเฟ้นหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหาร ทั้งยังเอาข้าราชการระดับสูงที่ส่วนใหญ่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์มาทำงานอีก เพราะเชื่อฟังและทำตามทุกอย่างที่รัฐบาลทหารสั่งเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่เห็นการทำงานที่กระตือรือร้นและกระฉับกระเฉงเพื่อประชาชน ทำเพียงเพื่อให้ถูกใจและเอาใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เป็นศูนย์กลางอำนาจและระบบอุปถัมภ์เท่านั้น

ประการที่ 4 นอกจากบรรดานายทหารที่มาจาก คสช. ถูกมองว่าไม่มีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ข้าราชการส่วนใหญ่ก็ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องนัก ถ้าถอยห่างได้ก็จะถอยออกห่าง การทำหน้าที่จะทำตามคำสั่งเท่านั้น ไม่พยายามแสดงความคิดเห็นหรือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งก็พยายามแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ต่างๆจาก คสช. โดยใส่ร้ายป้ายสีคนที่ขวางทางให้ออกจากเส้นทาง ข้าราชการส่วนใหญ่ใส่เกียร์ว่างหรือใช้เกียร์ธรรมดาไปเรื่อยๆเพียงเพื่อไม่ให้มีปัญหา

ประการที่ 5 เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมตกต่ำ รัฐบาลก็ไม่มีเงินและจำเป็นต้องกู้ยืมเงินอย่างมาก ทำให้การพัฒนาประเทศมีปัญหาและเกิดภาวะฝืดเคือง ส่งผลถึงรัฐบาลที่จะเข้ามาใหม่ต้องรับภาระและหาเงินมาชดใช้หนี้มากมาย ภาวะเศรษฐกิจจึงจะยังหดตัวต่อไป แม้จะตกถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถผงกหัวขึ้นได้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านต่างกำลังแข่งขันกันเต็มที่และประชาชนก็มีกำลังซื้อ

ประการที่ 6 สถานการณ์ความเชื่อถือของประชาคมโลกจะยังไม่เกิดขึ้นตราบใดที่ยังไม่มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ สหภาพยุโรปยังปิดตลาดสินค้าจากไทยเช่นเดิม ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านสามารถส่งสินค้าให้กับกลุ่มสหภาพยุโรปหรือได้สิทธิพิเศษทางภาษี สินค้าของไทยจึงจะมีปัญหาในการแข่งขัน แม้แต่ในกลุ่มอาเซียนที่รวมตัวกันเป็นเขตการค้าเสรีก็ตาม เปรียบเทียบราคาสินค้าไทยชนิดเดียวกับประเทศอาเซียนมีราคาสูงกว่า ปริมาณการค้าก็จะลดลง และกำไรก็ต้องลดลง

เมื่อการส่งออกมีปัญหา การลงทุนก็มีปัญหาตามมา การบริโภคในประเทศก็จะหดตัวตาม เพราะทั้งผู้ลงทุนและประชาชนต่างไม่มีเงิน นี่คือเงื่อนไขสำคัญที่รัฐบาลทหารและ คสช. ต้อง “ลงจากหลังเสือ” ยอมลงจากอำนาจเพื่อประเทศชาติและประชาชน แม้แต่การ “สืบทอดอำนาจ” โดยตั้งพรรคทหารหรือพรรคนอมินีเพื่อบริหารประเทศต่อ อาจทำให้ประชาคมโลกยอมรับการกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่การคว่ำบาตรก็จะยังมีอยู่

ทางรอดของประเทศจึงมีทางเดียวคือ รัฐบาลทหารและ คสช. ต้องยอม “ลงจากหลังเสือ” ปล่อยให้มีการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนเจ้าของประเทศตัดสินใจเลือกตัวแทนของตนเข้ามาบริหารประเทศ โดยไม่พยายามเล่นกลเพื่อ “สืบทอดอำนาจ” ใดๆ ประเทศก็จะกลับมาคึกคักเอง

You must be logged in to post a comment Login