- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
ผู้นำโลกค้านรับรองเยรูซาเลม

สถานีข่าวซีบีเอสนิวส์ รายงานว่า ผู้นำจากโลกอาหรับและหลายประเทศทั่วโลก ต่างออกมาประสานเสียงวิจารณ์ภายหลังที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศให้คำรับรองสถานะเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล พร้อมกับคำสั่งเริ่มกระบวนการย้ายสถานทูตสหรัฐออกจากเทอาวีฟไปนครเยรูซาเลม แทน
นายแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่น่าผิดหวัง ส่วนทางด้านปาโอโล เจนตีโลนีนายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุอนาคตของนครเยรูซาเลม ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลาง ขณะที่ สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ตำหนิความเคลื่อนไหวแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ ผู้นำโลกและนักการทูตต่างแสดงความผิดหวังที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองสถานะเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลอย่างเป็นทางการ และเท่ากับทำให้อิสราเอลสมหวังต่อการอ้างสิทธิครอบครองมานานในเยรูซาเลม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวมุสลิม ชาวคริสต์ และชาวยิว ผู้นำหลายประเทศประสานเสียงเตือนว่า จะเป็นอันตรายต่อกระบวนการสันติภาพและก่อให้เกิดความรุนแรงตามมาได้ นายรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษเองก็คัดค้านต่อคำประกาศของสหรัฐ และยืนยันว่าอังกฤษไม่มีนโยบายย้ายสถานทูตอังกฤษในอิสราเอล ด้านนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีก็ไม่สนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐ และสถานะเยรูซาเล็มควรปล่อยให้เป็นไปตามการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวคัดค้านการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ตำหนิของนานาประเทศ ล่าสุด 8 ประเทศ ใน 15 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องขอจัดการประชุมฉุกเฉินภายในปลายสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐในการรับรองสถานะเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล
อนึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ผู้นำของสหรัฐแถลงว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งเพื่อผลักดันกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง หลังจากที่สหรัฐดำเนินนโยบายไม่ยุ่งเกี่ยวต่อสถานะเยรูซาเล็มมาโดยตลอด และปล่อยให้เป็นการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เยรูซาเล็มนับเป็นหนึ่งในประเด็นขัดแย้งในตะวันออกกลาง เพราะถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวมุสลิม ชาวคริสต์ และชาวยิว ทางการอิสราเอลแถลงว่า คำประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์
You must be logged in to post a comment Login