- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ภาวะติดเชื้อ?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
รัฐบาลทหารคสช.ที่ถูกมองว่าแข็งแกร่งที่สุดในสามโลกกำลังอยู่ในภาวะติดเชื้อที่จะทำให้เกิดความอ่อนแอจากภายใน จุดแข็งเรื่องความโปร่งใสกำลังถูกท้าทายและตั้งคำถามจากสังคมในหลายกรณี ต้องยอมรับความจริงว่าที่ผ่านมามีหลายเรื่องลบสะสมทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลทหารคสช.ไม่ดีเหมือนเก่า ไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากประชาชนทั่วไปเหมือนตอนยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศในช่วงแรก นอกจากเรื่องความโปร่งใสยังมีเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่ดูจะขัดกับหลักการโดยเฉพาะเรื่องปลดล็อกทางการเมืองที่ยึดคำสั่งคสช.เหนือกว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งที่ศักดิ์ของกฎหมายต่างกัน นอกจากสองเรื่องนี้แล้ว ยังมีอีกหลายกรณีที่กำลังฟักตัวรอแสดงอาการ
หากเปรียบรัฐบาลทหารคสช.เป็นเสมือนร่างกายมนุษย์ ภายนอกอาจดูเหมือนยังกำยำแข็งแรงและสมบูรณ์ดี
แต่หากส่องดูภายในจะพบความแตกต่างออกไป
ร่างกายที่ยังดูกำยำแข็งแรงสมบูรณ์ดีนั้นเป็นเพียงเพราะเชื้อที่อยู่ในร่างกายยังอยู่ระยะฟักตัวจึงยังไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็น
สภาวะแบบนี้ถือว่าอันตราย วันดีคืนดีอาจน็อกไปเลยก็ได้
ต้องยอมรับความจริงว่าที่ผ่านมามีหลายเรื่องลบสะสมทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลทหารคสช.ไม่ดีเหมือนเก่า ไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากประชาชนทั่วไปเหมือนตอนยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศในช่วงแรก
โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสในการทำงานที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ตกต่ำมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรัฐบาลของนักการเมือง
กรณีนาฬิกาหรูและแหวนเพชรเม็ดงามที่ไม่แจ้งไว้ในรายการบัญชีทรัพย์สินของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
แม้จะพอมีทางออกและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่สรุปผลสอบที่ต้องรออีกประมาณ 30 วัน แต่สังคมได้ตัดสินล่วงหน้าไปแล้ว
ทางออกช่องเดียวที่ออกได้คือแจ้งว่าได้มาหลังเข้ารับตำแหน่งทำให้ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สิน รอไว้แจ้งบัญชีหลังพ้นตำแหน่งตามกฎหมายกำหนด แม้จะดูเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทางออกที่น่าเชื่อถือที่สุด
นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ดักคอเอาไว้ว่าหาจะออกทางนี้ไม่ควรจบง่ายแค่บอกว่าได้มาหลังรับตำแหน่ง ต้องเคลียร์ให้ชัดเจนในหลายประเด็น
1.ซื้อมาจากร้านใด วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร ราคากี่บาท เพราะของแพงแบบนี้ต้องมีใบเสร็จและมีใบรับประกันสินค้า
2.ก่อนเดินทางออกจากประเทศที่ซื้อได้ทำเรื่องขอคืนภาษีหรือไม่ และเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ได้มีการสำแดงต่อศุลกากรไทยหรือไม่
3.ต้องตรวจสอบด้วยว่าซื้อด้วยเงินสดหรือใช้บัตรเครดิตเงินที่ซื้อมาจากเงินที่เคยแจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. ในบัญชีใด ธนาคารใด หรือไม่? อย่างไร? ต้องตรวจสอบดูว่ายอดเงินในบัญชีที่ถูกอ้างว่านำไปซื้อนาฬิกาเรือนนี้ มีการลดลงหรือมีการเปลี่ยนแปลงทางบัญชี อย่างสมเหตุสมผลกันหรือไม่? อย่างไร?
หากไม่ชี้แจงประเด็นที่นายวีระตั้งไว้ได้อย่างชัดเจนจะทำให้มีปัญหาตามมาได้
ยังไม่รวมประโยคสำคัญที่ “บิ๊กป้อม” พูดกับนักข่าวที่ถามเรื่องนี้ว่าเป็นของเก่า ซึ่งจะมีปัญหาว่าหากเป็นของเก่าก่อนรับตำแหน่งทำไมไม่แสดงในบัญชีทรัพย์สิน หรือเป็นของเก่าที่ซื้อมาหลังรับตำแหน่งก็ต้องเคลียร์ 3 ประเด็นที่นายวีระตั้งไว้ให้ด้วย
เรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชรเม็ดงามทำให้ร่างกาย “บิ๊กป้อม” อยู่ในภาวะติดเชื้อฉุดความน่าเชื่อถือลดน้อยลงและในอนาคตข้างหน้าเมื่อลงจากอำนาจแล้วอาจลุกลามขยายผลไปถึงขั้นถูกร้องให้ตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อดูว่ารวยผิดปรกติหรือไม่ด้วย
นี่ยังไม่นับรวมเรื่องการปลดล็อกทางการเมืองที่คนวงในอย่าง นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ออกมาเตือนสติผู้มีอำนาจโดยระบุว่า
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับพรรคการเมืองบัญญัติให้พรรคทำกิจกรรมตามเวลาที่กำหนด ถ้าไม่ทำก็เสียสิทธิตามกฎหมาย คำสั่ง คสช.ห้ามพรรคทำกิจกรรมนั้นต้องไม่ลืมว่าหลักกฎหมายในกรณีขัดกันมีอยู่ว่าต้องบังคับใช้กฎหมายที่ศักดิ์สูงกว่าคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ต้องบังคับใช้กฎหมายที่ออกมาภายหลัง และในกรณีขัดกันต้องถือว่ากฎหมายที่ออกมาในภายหลัง ได้ยกเลิกหรือลบล้างกฎหมายที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
ถ้าไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย แล้วไปขอขยายเวลาในภายหลัง ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยึดหลักกฎหมายที่ว่านี้ขึ้นมาก็คงสนุก…อภินิหารทางกฎหมายครับ!!
นี่ก็เป็นเชื้อทางการเมืองอีกตัวที่แทรกซึมเข้าทำลายความมั่นคงของรัฐบาลทหารคสช.จากภายใน
นอกจากทั้งสองเรื่องนี้แล้วยังมีอีกหลายกรณีที่กำลังฟักตัวรอแสดงอาการอยู่
You must be logged in to post a comment Login